สนามบินบาหลีเปิดหลังลมเปลี่ยนทิศ ผู้นำอิเหนาย้ำ “ภูเขาไฟอากุง” ยังอันตราย

เอเจนซีส์ - สนามบินบาหลีที่ปิดมาเกือบ 3 วัน เปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อบ่ายวันพุธ (29 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม โฆษกสนามบินเผยยังต้องติดตามสถานการณ์ภูเขาไฟอากุงอย่างใกล้ชิด และอาจต้องปิดอีก หากลมเปลี่ยนทิศและทำให้การบินเสี่ยงอันตราย ด้านผู้นำอินโดนีเซียเรียกร้องประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงสูง ขณะที่หน่วยงานภัยพิบัติย้ำยังคงมาตรการเตือนภัยภูเขาไฟลูกนี้ในระดับสูงสุด

หลังจากภูเขาไฟอากุงสั่นสะเทือนหนัก และปล่อยขี้เถ้ากับควันคลุ้งซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่า อาจมีการระเบิดครั้งใหญ่ได้ทุกเมื่อ ทำให้เที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศรวมแล้วหลายร้อยเที่ยวบินต้องหยุดให้บริการมาตั้งแต่วันจันทร์ (27) โดยที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวตกค้างสะสมอยู่มากกว่า 120,000 คน

ทั้งนี้ เถ้าภูเขาไฟทำให้รันเวย์ลื่น รวมทั้งยังอาจถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ของเครื่องบินและส่งผลให้เครื่องยนต์หยุดทำงาน

แอร์แนฟ หน่วยงานควบคุมการจราจรทางอากาศแถลงเมื่อวันพุธว่า ท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไรบนเกาะบาหลี เริ่มให้บริการตามปกติแล้วตั้งแต่เวลา 14.28 น. (13.28 น. ตามเวลาไทย) หลังจากมีการลดคำเตือนการบินเป็น “สีส้ม” หรืออันตรายสูงสุดอันดับ 2

การตัดสินใจเปิดให้บริการสนามบินอีกครั้งมีขึ้นภายหลังการประชุมฉุกเฉินในสนามบินเพื่อพิจารณาสภาพอากาศ การทดสอบ และข้อมูลจากแอร์แนฟและกลุ่มอื่นๆ

สิงคโปร์ แอร์ไลนส์แถลงว่า จะเริ่มให้บริการเที่ยวบินสิงคโปร์-บาหลีในวันพุธ ส่วนแควนตัส แอร์เวยส์และสายการบินต้นทุนต่ำในเครือคือ เจ็ตสตาร์ จะให้บริการเที่ยวบินจากบาหลีสู่ออสเตรเลีย 16 เที่ยวบินในวันพฤหัสบดี (30) เพื่อนำลูกค้าที่ติดค้างอยู่ 3,800 คนกลับบ้าน

นอกจากนั้นสนามบินบนเกาะลอมบ็อกที่อยู่ใกล้บาหลีและเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งของอินโดนีเซีย ที่เปิดและปิดให้บริการหลายครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กลับมาให้บริการใหม่แล้วเช่นเดียวกัน

ในวันพุธ ภูเขาไฟอากุงยังคงพ่นควันหนาและเถ้าภูเขาไฟออกมาไม่ขาดสาย แม้มีฝนตกเมื่อคืนวันอังคาร (28) ซึ่งทำให้การปะทุอย่างรุนแรงที่สุดในช่วงหลายวันก่อนเบาลงบางส่วนก็ตาม

ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่อันตรายในรัศมี 10 กิโลเมตรรอบอากุง

อพยพไปยังศูนย์ฉุกเฉิน รวมทั้งขอให้หน่วยงานบริการเหตุฉุกเฉิน กองทัพ และเจ้าหน้าที่รัฐ ช่วยเหลือผู้อพยพและนักท่องเที่ยวที่ติดค้างให้สามารถเดินทางกลับบ้านได้

เจ้าหน้าที่สำนักงานภัยพิบัติอินโดนีเซียคาดว่า อาจต้องอพยพคนออกจากพื้นที่อันตรายทั้งสิ้นถึง 100,000 คน โดยขณะนี้มีผู้อพยพออกมาแล้วเพียงหลายหมื่นคนเท่านั้น เจ้าหน้าที่ยังย้ำว่า ยังคงมาตรการเตือนภัยภูเขาไฟอากุงในระดับสูงสุดเช่นเดิม

ภูเขาไฟอากุงตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะบาหลี มีความสูงกว่า 3,000 เมตร และการระเบิดใหญ่ครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในปี 1963 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน