เอเจนซีส์ - อิวังกา ทรัมป์ บุตรสาวคนโตของผู้นำสหรัฐฯ เดินทางถึงเมืองไฮเดอราบัดแล้วเมื่อเช้าวันนี้ (28 พ.ย.) เพื่อเข้าร่วมงานสัมนาทางธุรกิจ ที่มีอินเดียและสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพร่วม ลูกสาวทรัมป์เตรียมขึ้นกล่าวผลักดันนโยบายพลังผู้หญิงทางเศรษฐกิจ พร้อมกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี แต่เสียงเซ็งแซ่วิจารณ์ถึงแบรนด์เสื้อผ้าอิวังกา ทรัมป์ ใช้แรงงานราคาถูกในต่างแดน
NDTV สื่ออินเดียรายงานวันนี้ (28 พ.ย.) ว่า อิวังกา ทรัมป์ บุตรสาวและที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางมาถึงเมืองไฮเดอราบัด อินเดีย ตั้งแต่ช่วงเช้าวันอังคาร (28 พ.ย.) เพื่อเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจที่ถูกจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 28-30 พ.ย ซึ่งถูกจัดภายในศูนย์การประชุมนานาชาติไฮเดอราบัด HICC และศูนย์เทรดเอ็กโปนานาชาติไฮเดอราบัด Hitex
ซึ่งในงานพบว่ามีนักลงทุนรุ่นใหม่จำนวน 1,200 คนเข้าร่วมการประชุม ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง สื่ออินเดียชี้ โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อินเดียเปิดเผยว่า ผู้ที่เข้าร่วมการสัมนามีอายุต่ำสุดอยู่ที่ 13 ปี
ในขณะที่อิวังกาเดินทางมาพร้อมกับคณะจำนวน 350 คน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งในคณะมีชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียร่วมเดินทางมาด้วยเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ก่อนหน้ามีรายงานว่า เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯไม่ส่งเจ้าหน้าที่ต่างประเทศเดินทางมาพร้อมกับอิวังกา โดยสื่อ AOL รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเป็นตัวตั้งตัวตีการจัดงานประจำปีในอดีต ซึ่งในปีที่ผ่านมาพบว่า อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รีย์ ได้ขึ้นกล่าวในการเปิดงาน
แต่ทว่าสำหรับในปีนี้ สื่อ AOL อ้างจากแหล่งข่าวใกล้ชิดที่ได้ให้ข้อมูลกับ CNN ว่า เกิดการไม่กินเส้นระหว่างทิลเลอร์สันและทำเนียบขาว โดยชี้ว่า “ ไม่มีใครที่มีตำแหน่งสูงกว่าผู้ช่วยรองรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯได้รับอนุญาตให้ร่วมการเดินทาง” และกล่าวต่อว่า “ซึ่งทางรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงแสดงถึงความจำเป็นการต้องอนุมัติในรายละเอียดการเดินทางทุกอย่าง แม้แต่รายละเอียดในเรื่องของเวลา”
และมีการรายงานว่า การตัดสินใจไม่มีงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้อง
“เร็กซ์ไม่ชอบในความจริงที่ว่า เขาสมควรที่ต้องเป็นทูตระดับสูงของประเทศของเรา แต่ทว่าทั้งจาเรด คุชเนอร์ และอิวังกา ทรัมป์ ก้าวข้าม เร็กซ์ ทิลเลอร์สันมา นานแล้ว” หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าวกับ CNN
และแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับทำเนียบขาวรายนี้กล่าวต่อว่า “และในเวลานี้ เขาจึงไม่ส่งเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงต่างประเทศมาช่วย เขาไม่ให้การสนับสนุนอิวังกา ทรัมป์”
ทั้งนี้สื่อ NDTV รายงานว่า อิวังกาจะขึ้นกล่าวในฐานะองค์ปาฐกหลักในการเปิดงานวันนี้(28 พ.ย)ร่วมกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา อินเดีย และพบว่าบุตรสาวทรัมป์มีกำหนดต้องขึ้นพูดในวันพรุ่งนี้(29 พ.ย)เช่นกัน
สำหรับในช่วงค่ำวันนี้(28 พ.ย) สื่ออินเดียรายงานว่า นายกรัฐมนตรีโมดีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับบุตรสาวผู้นำสหรัฐฯภายในพระราชวังฟาลัคนุมา( Falaknuma Palace)เมืองไฮเดอราบัด
สื่ออินเดียรายงานต่อว่า โมดีได้จัดให้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาสำหรับการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการของอิวังกา ทรัมป์ พบว่าต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 10,000 นาย แต่ทว่ารายละเอียดการรักษาความปลอดภัยอินเดียนั้นได้มีการยื่นให้ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลับสหรัฐฯและกลุ่มการรักษาความปลอดภัยพิเศษ(the Special Protection Group)ตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่เครื่องบินที่จะนำบุตรสาวผู้นำสหรัฐฯเดินทางมาถึงอินเดีย พบว่ามีการตั้งคำถามอย่างมากมายถึงธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าของอิวังกา และแหล่งผลิตสินค้า ซึ่งเสียงวิจารณ์ชี้ไปถึงข้อสงสัยถึงความเชื่อมโยงการใช้ฐานผลิตในต่างแดนที่มีแรงงานราคาถูกเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นต้นว่า บังกลาเทศ และอินเดีย
นิวยอร์ก เดลี สื่อสหรัฐฯรายงานว่า บริษัทเสื้อผ้าอิวังกา ทรัมป์ที่เธอเป็นเจ้าของแต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหาร ไม่เปิดเผยที่มาของสินค้า แต่ทว่าหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานในเดือนกรกฎาคมล่าสุดว่า พบว่าเสื้อผ้าแบรนด์ของบุตรสาวผู้นำสหรัฐฯถูกผลิตขึ้นโดยใช้แรงงานราคาถูกจากต่างแดนผลิต ซึ่งที่มาของสินค้ามาจากทั้งจีน บังกลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าทางวอชิงตันโพสต์ไม่สามารถตามไปต่อถึงแหล่งผลิตในอินเดียได้ว่าอยู่ที่ใด ซึ่งอุตสาหกรรมสิ่งทออินเดียถือเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่มีแรงงานเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะผู้หญิงทำงาน
ทั้งนี้พบว่าแรงงานสิ่งทอบังกลาเทศ ที่ส่วนใหญ่เป็นสตรีสามารถทำเงินได้ต่อวันราว 4.70 ดอลลาร์เท่านั้นท่ามกลางสภาพการทำงานที่ย่ำแย่ อ้างอิงจากวอชิงตันโพสต์
นิวยอร์กเดลีชี้ต่อว่า ที่เมืองไฮเดอราบัด อิวังกาจะขึ้นกล่าวในฐานะองค์ปาถกภายใต้หัวข้อ เพื่อการเปลี่ยนแปลง: ความเป็นผู้นำทางการลงทุนของสตรีเพศ( Be the Change: Women’s Entrepreneurial Leadership)
ซึ่งเป้าหมายของการเยือนอินเดียครั้งนี้ บุตรสาวผู้นำสหรัฐฯต้องการผลักดันนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯเกี่ยวกับสตรี โดยเฉพาะในด้านพลังผู้หญิงเพื่อทางเศรษฐกิจเพื่อชุมชนและประเทศ ที่ผ่านมาในต้นเดือนนี้พบว่า อิวังกาได้ต่อรองกับสมาชิกสภาสูงสหรัฐฯสายพรรครีพับลิกันให้เพิ่มค่าลดหย่อนบุตรเป็น 2 เท่า หรือมากถึง 2,000 ดอลลาร์สำหรับผู้เสียภาษีอเมริกัน แต่ทว่าในสหรัฐฯผู้คนยังคงตั้งคำถามถึงความเป็นตัวแทนกลุ่มผู้หญิง หรือการรวมตัวทางอำนาจต่อรองของผู้หญิง
แต่ทว่าโฆษกทำเนียบขาว ซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส ออกมากล่าวโต้ โดยชี้ว่า “อิวังกา ทรัมป์” เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งของผู้หญิงทางเศรษฐกิจที่ไม่ได้ผ่านทางคำพูด แต่มาจากการกระทำ
สื่อสหรัฐฯกล่าวว่า อิวังกา ทรัมป์ยังชี้ไปถึงความเหมือนของผู้เป็นพ่อเกี่ยวกับโครงการช่วยเหลือสตรีของเวิลด์แบงก์สำหรับกลุ่มผู้หญิงที่ต้องสร้างบริษัทของตนเองในการเข้าถึงง่ายขึ้นต่อการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน “ซึ่งจะเป็นการเพิ่มพลังอำนาจให้สตรีประเทศที่กำลังพัฒนาทั่วโลกเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง”
ทั้งนี้ พบว่า นายกรัฐมนตรีโมดีได้ออกปากเชิญบุตรสาวผู้นำสหรัฐฯมาร่วมงานนี้ในระหว่างที่โมดีเยือนสหรัฐฯอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนก่อนหน้า