เอเอฟพี - อินโดนีเซียประกาศยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุดและสั่งปิดสนามบินบนเกาะบาหลีในวันนี้ (27 พ.ย.) หลังจากภูเขาไฟอากุงบนพ่นเถ้าถ่านดำทะมึนขึ้นปกคลุมท้องฟ้าเป็นบริเวณกว้าง และมีสัญญาณเตือนว่าอาจเกิดการระเบิดครั้งใหญ่
ภูเขาไฟอากุงซึ่งมีความสูงกว่า 3,000 เมตรและอยู่ห่างจากย่านกูตา (Kuta) ประมาณ 75 กิโลเมตร เริ่มปลดปล่อยกลุ่มควันออกมาจากปากปล่องตั้งแต่วันอังคารที่แล้ว (21) ขณะที่เช้าวันนี้ (27) เกเด ซวันติกา นักภูเขาไฟวิทยาของรัฐบาลอิเหนา ระบุว่ากลุ่มควันสีเทาทึบได้ลอยสูงขึ้นไปในอากาศกว่า 3 กิโลเมตร
“เราได้ยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟสู่ขั้นสูงสุด... และยังคงเกิดแรงสั่นสะเทือนอยู่เป็นระยะๆ” ซวันติกา กล่าว
ทางการได้ประกาศขยายเขตอพยพเพิ่มเป็น 10 กิโลเมตร และขอร้องให้ประชาชนที่ยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอพยพโดยด่วน
ชาวบ้านราว 25,000 ตัดสินใจเก็บข้าวของย้ายออกนอกพื้นที่ตั้งแต่ภูเขาไฟอากุงเริ่มปลดปล่อยกลุ่มควันให้เห็นเป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ 21 พ.ย.
“เถ้าถ่านที่ลอยออกมานั้น บางครั้งก็มีการปะทุและมีเสียงระเบิดเบาๆ ตามมาด้วย... แสงสีส้มภายในปล่องภูเขาไฟเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้นในเวลากลางคืน ทั้งหมดล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่เร็วๆ นี้” คณะกรรมการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย ระบุในถ้อยแถลง
เจ้าหน้าที่บาหลีได้นำหน้ากากอนามัยไปแจกจ่ายแก่ประชาชน เนื่องจากหมู่บ้านหลายแห่งเริ่มถูกปกคลุมด้วยเถ้าถ่านจากภูเขาไฟ
สุโตโป ปุรโว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย ได้เตือนให้ประชาชนระวังอันตรายจาก “โคลนภูเขาไฟ” หรือที่ชาวอิเหนาเรียกว่า “ลาฮาร์” (lahar) ซึ่งอาจไหลลงมาท่วมทับชุมชนเบื้องล่าง เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูมรสุมและจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น
“ขอให้ระวังปรากฏการณ์โคลนบนภูเขาไฟซึ่งเริ่มเกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่” นูโกรโฮ กล่าว พร้อมเตือนให้ชาวบ้านหลีกเลี่ยงแม่น้ำลำธารรอบๆ ภูเขาไฟด้วย
ล่าสุด ท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไรบนเกาะบาหลีซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกปีละหลายล้านคนได้ถูกสั่งปิดชั่วคราว
“สนามบินบาหลีต้องปิดชั่วคราวจริงๆ ขณะนี้เราอยู่ระหว่างประสานงานเพื่อดำเนินการขั้นต่อไป” อารี อะห์ซานุรรอฮีม โฆษกสนามบิน ยืนยันกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี พร้อมยอมรับว่าอาจมีผู้โดยสารได้รับผลกระทบหลายหมื่นคน
ด้านสนามบินบนเกาะลอมบ็อกซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทางตะวันออกของบาหลีก็ถูกสั่งปิดเมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (26) เนื่องจากกระแสลมพัดพาเถ้าถ่านจากภูเขาไฟอากุงไปทางทิศตะวันออก แต่ล่าสุดสนามบินสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ (25) รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศเตือนการเดินทางไปยังเกาะบาหลี โดยขอให้นักท่องเที่ยวใช้ความระมัดระวังอย่างสูงขณะอยู่ในอินโดนีเซีย และปฏิบัติตามคำสั่งของทางการอย่างเคร่งครัด
การระเบิดครั้งใหญ่ในปี 1963 ได้คร่าชีวิตชาวเกาะบาหลีไปมากถึง 1,600 คน
ภูเขาไฟลูกนี้ตื่นจากการหลับใหลเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ต้องอพยพชาวบ้าน 140,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยง ก่อนที่กิจกรรมภูเขาไฟจะลดลงในช่วงปลายเดือน ต.ค. และผู้คนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางกลับบ้าน
อย่างไรก็ตาม ภูเขาไฟอากุงกลับมาสำแดงพิษสงอีกครั้งในวันอังคารที่ 21 พ.ย. และพ่นกลุ่มควันเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์เมื่อวันเสาร์ (25) โดยนักภูเขาไฟวิทยาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “phreatic eruption” ซึ่งเกิดจากการที่น้ำใต้ดินได้รับความร้อนจัดจนขยายตัว
ชาวฮินดูในบาหลีหลายสิบคนได้ร่วมกันสวดอ้อนวอนเทพเจ้าใกล้ๆ ภูเขาไฟอากุงเมื่อวานนี้ (26) โดยหวังว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่