เอเจนซีส์ - เนอร์สเซอรี่ชื่อดัง อาร์วายบี เอ็ดดูเคชัน (RYB Education) ของปักกิ่ง สร้างความตกตะลึงไปทั่ว เมื่อพบว่ามีการทำทารุณเด็กที่ด้วยการใช้ “เข็มฉีดยา” ฉีดไปที่ร่างกาย รวมไปถึงบังคับป้อนยาเม็ดสีขาวปริศนาหลังมื้ออาหารเที่ยง สร้างความโกรธแค้นให้ผู้ปกครองชาวจีนที่มีฐานะอันจะกินเป็นจำนวนมาก จนถึงขั้นเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งจัดการในเรื่องนี้ด่วน ด้านบริษัทแม่ออกแถลงการณ์ประกาศขออภัย
บีบีซีสื่ออังกฤษรายงานล่าสุดวันนี้(24 พ.ย)ถึงเหตุความโกลาหลเกี่ยวกับคดีใช้เข็มทำร้ายเด็กในศูนย์เนอร์สเซอรี่ชื่อดังที่มีหหลายสาขาว่า พบว่ามีเด็กก่อนวัยเรียนในศูนย์เนิร์สซารี อาร์วายบี เอ็ดดูเคชัน (RYB Education) ย่านคนมีเงินเขตเจ้าหยาง(Chaoyang)ของกรุงปักกิ่ง ไม่ต่ำกว่า 8 ราย ถูกใช้เข็มแทงฉีดสารไม่ทราบชื่อเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งพบว่า มีร่องรอยการแทงเข็มฉีดยาบริเวณตามร่างกายของเด็กๆที่บรรดาผู้ปกครองเห็นเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ พร้อมกับภาพรอยการถูกฉีดนั้นถูกถ่ายไว้และเผยแพร่ไปทั่วประเทศ
นอกจากนี้ทางผู้ปกครองที่ตกเป็นเหยื่อยังชี้แจงว่า บุตรหลานของพวกเขาถูกบังคับให้ป้อนด้วยเม็ดยาไม่ทราบชื่อ หรือไซรัปขนานหนึ่งก่อนเวลานอนพักกลางวัน ซึ่งหนึ่งในพ่อผู้เสียหายได้ยืนยันกับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติจีน CCTV ด้วยความรู้สึกว่า ว่า ลูกของเขากล่าวว่า ทุกวันหลังมื้ออาหารเที่ยงจะได้รับแจกยาเม็ดสีขาว 2 เม็ดทุกวัน และ “ไปนอน” หลังจากทานยา 2 เม็ดนั้นแล้ว
ด้านสื่อท้องถิ่นจีนเปิดเผยว่า มีผู้ปกครองบางรายออกมาให้ข้อมูลว่า บุตรหลานพวกตนถูกทางเนอร์สเซอรี่ “ล่วงละเมิดทางเพศ” ด้วยการถูกบังคับยืนเปลือยกายเพื่อโดนลงโทษ
ทั้งนี้ในวันพฤหัสบดี(23 พ.ย) บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองต่างมาออรวมตัวกันบริเวณด้านนอกของศูนย์เนอร์สเซอรี่เพื่อประท้วง ซึ่งมีบางส่วนได้บอกกับสื่อ Caixin Global ว่า พวกเขาสงสัยว่า ครูที่อยู่ในศูนย์แห่งนี้ “ใช้เข็ม” เพื่อดัดนิสัยเด็ก
“เด็กนักเรียนที่ไม่เชื่อฟังจะถูกบังคับให้ยืนเปลือยทั้งตัว หรือจะถูกขังไว้ในห้องมืดภายในศูนย์โรงรียนอนุบาล” หนึ่งในผู้ปกครองเนอร์สเซอรี่ได้ให้ข้อมูลกับสื่อ
สอดคล้องกับการรายงานของสื่อออนไลน์ wibqam.com ออกมาชี้ว่า ท่ามกลางการรายงานว่า ผู้ปกครองที่มีลูกหลานอายุต่ำสุด 3 ปีเข้าเรียนที่นี้ ชี้ว่า มีผู้ใหญ่ที่เป็นชายเปลือยกายใช้ข้ออ้าง “ตรวจสุขภาพ” กับบรรดาเด็กเล็กที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าด้วยเช่นกัน
บีบีซีรายงานว่า ทางตำรวจจีนได้ยึดกล้องทีวีวงจรปิดของทางศูนย์เนอร์สเซอรี่ไว้ และพบว่ามีครู 3 คนที่ทำงานในนี้ถูกสั่งพักงาน
ด้านสำนักการศึกษาเขตของปักกิ่งออกมาแถลงว่า จะมีการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวดกับศูนย์เนอร์สเซอรี่ทุกแห่งทั่วกรุงปักกิ่ง
สื่ออังกฤษรายงานว่า เมื่อวานนี้(23 พ.ย) ทางบริษัทผู้ให้บริการด้านการศึกษา อาร์วายบี เอ็ดดูเคชัน ยอมออกแถลงการณ์ขออภัยในภาษาจีน โดยชี้แจงว่าทางบริษัทอยู่ในระหว่างความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนในการสอบสวน พร้อมกับกล่าวว่า “ทางเราขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนำมาสู่การถกเถียงระหว่างผู้ปกครองและในสังคม”
และในแถลงการณ์ของทางบริษัทยังชี้ว่า “และหากตรวจพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ทางเราจะไม่หลบหนีต่อความรับผิดชอบ และทางเราจะแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ถึงข้อกล่าวหาเท็จที่มีต่อเราเข่นกัน”
บีบีซีรายงานว่า ทั้งนี้อาร์วายบี เอ็ดดูเคชันเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และได้รับความเชื่อถือในด้านการศึกษาก่อนวันเรียนในจีน และพบว่าในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทได้เปิดตัวซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์ที่นิวยอร์กเป็นครั้งแรก
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า รัฐบาลปักกิ่งได้ออกมาให้สัญญากับบรรดาพ่อแม่ว่า จะเร่งทำการสอบสวนในคดีนี้อย่างรวดเร็ว โดยทางเจ้าหน้าที่กำกับด้านการศึกษาของจีนออกมาประกาศว่า จะต้องมีการลงโทษต่อผู้กระทำผิดที่ได้กระทำการทำร้ายทางร่างกายและจิตใจต่อเด็กเล็กๆเหล่านี้
ซึ่งพบว่านับตั้งแต่วันพุธ(22 พ.ย)เป็นต้นมา บรรดาสื่อจีนได้ประโคมข่าวรายงานในเรื่องนี้อย่างเกาะติดถึงความโกรธแค้นของบรรดาผู้ปกครองผู้มีอันจะกินจีนที่ช็อกหลังจากรับรู้ว่า ลูกหลานของพวกเขาถูกทำร้ายภายในศูนย์เลี้ยงเด็กชื่อดัง ซึ่งทางอาร์วายบี เอ็ดดูเคชันอ้างว่า เป็นศูนย์ให้บริการด้านการศึกษาก่อนวัยเรียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และมีเจ้าหน้าที่มากกว่า 4,400 คน
ทั้งนี้ในวันศุกร์(24 พ.ย) เดอะการ์เดียนรายงานว่า มีคนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงที่ตั้งศูนย์เนอร์สเซอรี่จำนวนหลายสิบคน รวมไปถึงชายบางส่วนที่ดูเหมือนเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ยืนรวมอยู่บริเวณด้านนอกของศูนย์เนอร์สเซอรี่ในช่วงบ่ายของวันนี้(24 พ.ย) หนึ่งในมารดาที่เป็นผู้ปกครองนักเรียนจากศูนย์แห่งนี้ได้เดินออกมาจากอาคาร สื่ออังกฤษชี้ และเธอกล่าวให้ความเห็นว่า เธอเชื่อว่า ในเวลานี้คดีอยู่ในระหว่างการสอบสวนอย่างจริงจัง แต่สำหรับส่วนตัวเธอ เธอขอให้ลูกของตัวเองอยู่ที่บ้านเพื่อความปลอดภัย โดยคุณแม่ชาวจีนรายนี้ที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อกับสื่อ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “พวกเขาจะไม่ปิดบังอะไร”
แต่ทว่า เดอะการ์เดียนชี้ คุณแม่รายที่ 2 กลับยังมีความรู้สึกวิตก โดยชี้ว่า เธอเกรงว่าเรื่องทั้งหมดจะถูกทำให้เงียบ และกล่าวว่า “แต่มีคนจำนวนมากเชื่อว่า เราไม่สามารถอยู่ได้อย่างเงียบๆอีกต่อไป..เพราะสิ่งนี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในจีน”
ในขณะที่สื่อ wibqam.com ชี้ว่า ในวันศุกร์(24 พ.ย) มีคุณพ่อรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อเดินตรงเข้าไปยังศูนย์เนอร์สเซอรี่แห่งนี้เพื่อขอยกเลิกหาสมัครเข้าเรียนของบุตรของตัวเอง พร้อมประกาศเรียกร้องขอเงินคืน ส่วนคุณแม่ชาวจีนวัย 36 ปี หวัง ซิคี (Wang Siqi) กล่าวว่า เธอยอมลางาน 1 วันเพื่อมารอคำตอบจากทางโรงรียนถึงแม้ว่าบุตรชายวัย 7 ปีของเธอจะไม่ได้เข้าศึกษาในเนอร์สเซอรี่ที่นี่ก็ตาม โดยกล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นแม่ เมื่อดูข่าวนี้แล้วรู้สึกว่าทนไม่ได้” และกล่าวต่อว่า “ให้อภัยไม่ได้เลยจริงๆ”
