เอเจนซีส์ - กองทัพซิมบับเวบรรลุข้อตกลงกับอดีตผู้นำเผด็จการซิมบับเว ประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ได้รับสิทธิ์ภูมิคุ้มกันจากการโดนดำเนินคดี และมีความปลอดภัยในซิมบับเว แต่ยังไม่ชัดว่า เกรซ ภรรยามูกาเบได้คุ้มกันด้วยหรือไม่ จากรายงานชี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในการลาออกเมื่อวันอังคาร (21 พ.ย.) ด้านว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ อดีตรองประธานาธิบดี เอมเมอร์สัน เอ็มแนนแกกวา ที่เคยถูกมูกาเบไล่ออกจนเป็นเหตุยึดอำนาจ เตรียมเข้าสาบานตนรับตำแหน่งวันนี้
อัลญะซีเราะห์ สื่อกาตาร์ รายงานเมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) ว่า แหล่งข่าวเปิดเผยว่า อดีตประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ วัย 93 ปีได้รับภูมิคุ้มกันทางการเมือง ไม่โดนถูกส่งตัวดำเนินคดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างมูกาเบ และผู้นำระดับสูงของกองทัพจนทำให้เขายอมลาออกในวันอังคาร (21)
แหล่งข่าวอ้างในวันพฤหัสบดี (23) ว่า ทางกองทัพยอมให้สิทธิ์ภูมิคุ้มกันแก่มูกาเบเนื่องมาจากเหตุผลด้านอายุเป็นสำคัญ ซึ่งทางมูกาเบได้รับการให้คำมั่นว่าเขาจะได้รับการป้องกัน
ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันออกมาว่าภูมิคุ้มกันที่ว่านี้ให้แก่ภรรยา อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ซิมบับเว เกรซ มูกาเบหรือไม่ อัลญะซีเราะห์ชี้
แต่ทว่าในการเปิดเผยของเดอะการ์เดียนวันพฤหัสบดี (23) สื่ออังกฤษอ้างว่า เป็นที่เข้าใจว่าข้อตกลงนั้นครอบคลุมไปถึงสมาชิกครอบครัวใหญ่ของมูกาเบ ที่รวมไปถึงบุตรชายบุญธรรมและหลานชาย และบางทีอาจรวมไปถึงผู้นำระดับสูงของเจ้าหน้าที่พรรคที่ถูกทางกองทัพซิมบับเวคุมตัวอยู่ในเวลานี้ หรือหลบอยู่ในต่างประเทศ แหล่งข่าวชี้
อย่างไรก็ตาม เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษกล่าวว่า มูกาเบได้ยืนยันสำหรับการปกป้องธุรกิจของครอบครัวในระหว่างการเจรจาต่อรองที่จะอนุญาตให้เขายังคงสามารถอาศัยอยู่ในซิมบับเวได้ต่อไปหลังการลาออกในวันอังคาร (21 พ.ย.)
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการเจรจาในครั้งนี้เปิดเผยกับสื่ออังกฤษว่า มูกาเบวัย 93 ปีปฎิเสธที่จะเดินทางออกนอกประเทศ โดยอ้างว่า เขาต้องการที่จะตายในซิมบับเวเท่านั้น พร้อมกับปฏิเสธข้อเสนอเส้นทางปลอดภัยเพื่อทื่จะเดินทางลี้ภัยไปยังสิงคโปร์ และมาเลเซีย 2 ประเทศที่เขามีบ้านพักส่วนตัว
หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าวกับเดอะการ์เดียนว่า “ส่วนมากข้อตกลงเกี่ยวกับครอบครัว ภรรยา และลูกๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคนเหล่านั้นจะไม่โดนไปด้วย”
ทั้งนี้ พบว่าคนส่วนใหญ่ในซิมบับเวยังคงให้การเคารพต่ออดีตผู้นำมูกาเบ แต่ทว่าสำหรับในส่วนตัวภรรยา เกรซ มูกาเบ วัย 52 ปี และอดีตรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนเธอนั้น พบว่าได้รับการต่อต้าน โดยแหล่งข่าวได้กล่าวกับเดอะการ์เดียนว่า “ประธานาธิบดีซิมบับเวที่กำลังจะลงจากอำนาจตระหนักดีถึงความเป็นปรปักษ์ทางสาธารณะกับภรรยาของเขา เกรซ ความโกรธที่กระจายไปทั่วถึงพฤติกรรมส่วนตัวของเธอที่แสดงออก และการเข้ามาในเวทีการเมืองซิมบับเวยังพรรครัฐบาลซานู - พีเอ็ฟ (Zanu-PF)”
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า “และจากสิ่งนี้จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องให้ความมั่นใจต่อเขา และครอบครัวของเขาทั้งหมด รวมไปถึงภรรยาว่าจะมีความมั่นคงและปลอดภัย เป็นเรื่องที่เขาให้ความสำคัญมาก และเขาปกป้องเป็นอย่างมากในเรื่องนี้”
บีบีซีรายงานล่าสุด โดยเดินทางไปยังซิมบับเวเพื่อสัมภาษณ์กลุ่มชาวนาในซิมบับเวที่อ้างว่า “เกรซ มูกาเบ” ทำให้คนพวกนี้สูญเสียที่ดินไป
ในขณะที่แหล่งข่าวในพรรครัฐบาลซานู-พีเอ็ฟให้ความเห็นกับเดาะการ์เดียนว่า มูกาเบและภรรยาจะถูกปล่อยให้อยู่อย่างสงบ ไซยัมบี ไซยัมบี (Ziyambi Ziyambi) อดีตสมาชิกรัฐสภาพรรคซานู-พีเอ็ฟ และอดีตรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า คนทั้งคู่ (มูกาเบและภรรยา) จะยังคงได้รับการเคารพ และมีความสุขในฐานะอดีตประธานาธิบดีซิมบับเว และรวมไปถึงภรรยาของเขาด้วย
อย่างไรก็ตาม อัลญะซีเราะห์ชี้ว่า พรรคการเมืองฝ่ายค้านหลักของซิมบับเว ความเคลื่อนไหวเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตยซิมบับเว หรือ MDC-T ออกมาชี้ว่า หากไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการในข้อตกลงลับระหว่างมูกาเบและกองทัพซิมบับเว ทำให้เป็นการยากที่จะคาดเดาในรายละเอียดได้
ทางโฆษกพรรค โอเบิร์ต กูตู (Obert Gutu) ออกมายอมรับว่า การมีสันติภาพกับอดีตเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ซิมบับเวก้าวไปข้างหน้าได้
นอกจากนี้ ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (23) ทางพรรค MDC-T ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนว่า ทางพรรคหวังว่าผู้ที่จะขึ้นมาแทนมูกาเบ อดีตรองประธานาธิบดี เอมเมอร์สัน เอ็มแนนแกกวา (Emmerson Mnangagwa) ซึ่งมีฉายาว่า “ไอ้เข้ซิมบับเว” จะไม่ทำการเมืองเลียนแบบมูกาเบ ซึ่งเป็นรูปแบบการเมืองของพวกอันธพาล เต็มไปด้วยความรุนแรง และรวมไปถึงการคอร์รัปชัน อันเป็นสัญลักษณ์การอยู่ในอำนาจของมูกาเบมานานถึง 37 ปี
ทั้งนี้พบว่าว่าที่ประธานาธิบดีซิมบับเวคนใหม่จะเข้ารับการสาบานตนในวันนี้ (24) กลายเป็นผู้นำคนที่ 3 หลังจากที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1980
เอ็มแนนแกกวาเดินทางกลับเข้าซิมบับเวจากแอฟริกาใต้ 2 สัปดาห์หลังจากที่มูกาเบถูกทางกองทัพกักตัวไว้ภายในบ้านพักหลังคาสีน้ำเงินของตัวเองในกรุงฮาราเร