เอเจนซีส์ - เช้าวันนี้ (23 พ.ย.) ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปาปัวนิกิรีร่วม 50 คนได้บุกเข้าไปยังศูนย์ผู้อพยพเกาะมานุสของออสเตรเลียที่ถูกปิดตัว เพื่อขับไล่บรรดาผู้อพยพจำนวนหลายร้อยคนที่ยังหลงเหลืออยู่ด้านใน แต่มาถึงค่ำพบยังมีอีกร่วม 300 ยังคงอยู่ด้านในต่อ ด้านรัฐมนตรีกระทรวงเข้าเมืองออสเตรเลีย ปีเตอร์ ดัตตอน (Peter Dutton) ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุซิดนีย์ ยืนยันปฏิบัติการตำรวจ พร้อมชี้ทางออสเตรเลียใช้งบภาษีประชาชนร่วม 10 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สร้างที่อยู่ใหม่ให้ผู้อพยพเข้าอาศัย
DW สื่อเยอรมนีรายงานวันนี้ (23 พ.ย.) ว่า ปีเตอร์ ดัตตอน (Peter Dutton) รัฐมนตรีกระทรวงเข้าเมืองออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุซิดนีย์ 2GB ยืนยันว่า ตำรวจปาปัวนิวกินีได้เข้าไปด้านในศูนย์ผู้อพยพเกาะมานุสจริงในวันพฤหัสบดี (23) พร้อมกับกล่าวให้ความเห็นว่า “ผู้จ่ายภาษีออสเตรเลียได้จ่ายไปแล้วถึง 10 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 8.7 ล้านยูโร สำหรับที่อาศัยแห่งใหม่ และทางเราต้องการให้คนเหล่านี้ย้าย” และกล่าวต่อว่า “เห็นได้ชัดว่านี่เป็นคำสั่งจากตำรวจปาปัวนิวกินีและทางเจ้าหน้าที่ที่นั่น แต่ทว่ามีปฏิบัติการเกี่ยวข้องกับตำรวจที่ศูนย์ผู้อพยพเช้านี้”
ด้านหัวหน้าตำรวจปาปัวนิวกินี โดมินิก คาคัส (Dominic Kakas) ให้ข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปาปัวนิวกินีและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองร่วม 50 นายเดินทางเข้าไปยังศูนย์ผู้อพยพในเช้าวันพฤหัสบดี (23) และสามารถชักจูงผู้ที่อยู่ด้านใน 35 คนจากคนทั้งหมดที่เป็นชายล้วน 378 คนให้ย้ายไปอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ที่ถูกจัดไว้ที่เมืองลอเรนเกา (Lorengau) ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ติดกัน
แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (23) พบว่ายังคงมีผู้อพยพที่ยังคงอยู่ด้านในศูนย์อีก 300 คน โดยคนทั้งหมดปฎิเสธที่จะเดินทางย้ายออกไปถึงแม้จะมีการใช้กำลังบุกเข้ามาเมื่อช่วงเช้าก็ตาม เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานล่าสุด
มีรายงานถึงการจับกุมเกิดขึ้นกับผู้อพยพจำนวนหนึ่งในเช้าวันนี้ (23 พ.ย.) รวมไปถึงนักข่าวชาวอิหร่านและผู้ขอลี้ภัย เบห์เราซ์ บูคาห์นี (Behrouz Boocahni) ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป โดยมีทวิตเตอร์ออกมาถึงภาพการจับกุมพร้อมกับข้อความว่า ในเวลานี้ที่เกาะมานุส ทางกองทัพได้จับกุมนักข่าวเจ้าของรางวัลชนะเลิศด้านสื่อขององค์การแอมเนสตีสากล เบห์เราซ์ บูคาห์นี ในเวลานี้แล้ว
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเพิ่มเติมว่า บูคาห์นีถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 2 นาย และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆรายล้อมขณะถูกจับกุม แต่ไม่พบว่าเขาใช้กำลังขัดขืน ซึ่งผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ ให้ข้อมูลกับเดอะการ์เดียนว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บุกเข้ามา เจาะจงตามหานักเคลื่อนไหวชาวอิหร่านรายนี้
ในรายงานของเดอะการ์เดียนชี้ว่า มีผู้ลี้ภัยบางส่วนเป็นลม และมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้โยนข้าวของผู้อพยพทิ้ง ซึ่งพบว่าหนึ่งในเจ้าหน้าที่ซึ่งบุกเข้าไปถือมีดขนาดใหญ่ เป็นอุปกรณ์ทั่วไปที่ถูกพบเห็นบนเกาะแห่งนี้ และในรายงานของสื่ออังกฤษ พบว่ามีการยึดโทรศัพท์มือถือของกลุ่มผู้อพยพเกาะมานุส
ด้านโซอี เอ็ดเวิรด์ส์ (Zoe Edwards) โฆษกหญิงกลุ่มเคลื่อนไหวเก็ตอัพ (GetUp) ของออสเตรเลียได้ออกมาชี้แจงกับสื่อเอเอฟพีของฝรั่งเศส โดยอ้างแหล่งข่าวผู้ลี้ภัยที่อยู่ด้านในศูนย์ผู้อพยพเกาะมานุสว่า ทางผู้อพยพได้ถูกใช้กำลังบังคับให้เดินทางออกนอกศูนย์ไปที่อื่นด้วยรถบัส
ในขณะที่ผู้อพยพอื่นๆ ได้ทวีตรายงานว่า มีผู้อพยพชายจำนวนหลายสิบคนถูกจับกุม
ผู้บัญชาการตำรวจปาปัวนิวกินี การี บากี (Gari Baki) ได้เคยออกมาแถลงเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าจะไม่มีการใช้กำลังเข้ามาเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ พบว่ามีผู้อพยพร่วม 400 คนที่เป็นชายล้วน ส่วนใหญ่เดินทางมาจากอัฟกานิสถาน อิหร่าน พม่า ปากีสถาน ศรีลังกา และซีเรีย ได้ตั้งสิ่งกีดขวางปิดทางเข้าออกขังตัวเองอยู่ด้านในตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค ที่ผ่านมา
DW รายงานพบว่า ผู้ลี้ภัยที่ยังหลงเหลืออยู่ถูกสั่งให้ออกนอกพื้นที่ภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง อ้างอิงจากชาย 2 คนที่อาศัยในศูนย์เกาะมานุส ตะโกนบอกนักข่าวสื่อเยอรมนี DP และมีรายงานว่า มีผู้ลี้ภัยบางส่วนปีนขึ้นไปบนหลังคาของศูนย์ แหล่งข่าว 3 คนได้บอกกับรอยเตอร์ว่า ทางตำรวจปาปัวนิวกินี้ได้นำอาหารและน้ำที่ทางบรรดาผู้ลี้ภัยได้เก็บสะสมไว้ออกไปด้านนอก
ผู้ลี้ภัยที่ไม่ยอมย้ายไปอยู่ที่ใหม่ชี้ว่า พวกเขากลัวความไม่ปลอดภัยหากต้องถูกย้ายไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากที่ผ่านมาชาวปาปัวนิวกินีต่อต้านบรรดาผู้อพยพ