เอเอฟพี - ภูเขาไฟอากุงบนเกาะบาหลีของอินโดนีเซียพ่นกลุ่มควันหนาทึบลอยสูงขึ้นไปในท้องฟ้ากว่า 700 เมตรเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) สร้างความหวั่นวิตกว่าจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในรอบกว่า 50 ปี
กิจกรรมของภูเขาไฟลูกนี้เริ่มสังเกตเห็นได้ชัดมาตั้งแต่เดือน ส.ค. และเป็นเหตุให้ชาวบ้านอิเหนากว่า 140,000 คนต้องละทิ้งบ้านเรือนเมื่อช่วงเดือนที่แล้ว
แม้การระเบิดครั้งใหญ่เมื่อปี 1963 จะทำให้มีผู้เสียชีวิตไปเกือบ 1,600 ราย แต่เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียยืนยันเมื่อวานนี้ (21) ว่า กิจกรรมของภูเขาไฟอากุงยังไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง
มาเด อินดรา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งบาหลี ยืนยันว่ายังไม่มีการยกระดับเตือนภัย
“สำหรับเรานี่ไม่ถือว่าเป็นการระเบิด... การระเบิดหมายความว่าจะต้องมีเศษหินหรือเถ้าถ่านลอยออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟด้วย ตอนนี้ยังมีแค่ควันเท่านั้นเอง” เขาอธิบาย
อย่างไรก็ตาม เกเด ซวันติกา นักภูเขาไฟวิทยาท้องถิ่น เตือนว่า “ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมีไม่เกิน 6 กิโลเมตรจากปากปล่องภูเขาไฟอากุงควรอพยพ”
ทางการอิเหนาประเมินว่า กระแสหวาดกลัวการระเบิดของภูเขาไฟอากุงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาทำให้เกาะบาหลีสูญเสียผลิตภาพและรายได้จากการท่องเที่ยวไปราวๆ 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นอย่างน้อย เนื่องจากชาวบ้านจำนวนมากต้องไปอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิง
หมู่เกาะอินโดนีเซียมีภูเขาไฟอยู่ราว 130 ลูก เนื่องจากตั้งอยู่ในแนว “วงแหวนไฟ” แห่งมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งเป็นรอยต่อของแผ่นเปลือกที่มักเกิดกิจกรรมแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง
ภูเขาไฟเมอราปีซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่อันตรายที่สุดในโลกเกิดระเบิดรุนแรงครั้งล่าสุดเมื่อปี 2010 คร่าชีวิตผู้คนบนเกาะชวาไปกว่า 300 คน และต้องมีการอพยพประชาชนมากถึง 280,000 คน
ภูเขาไฟซินาบุงบนเกาะสุมาตราก็ยังคงปะทุต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2013 และทางการได้ประกาศเตือนภัยขั้นสูงสุด