xs
xsm
sm
md
lg

พรรครัฐบาลซิมบับเวจ่อปลดมูกาเบ เมียผู้นำโดนด้วย-ชาวบ้านพากันดีใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อวันเสาร์ (18 พ.ย.) ประชาชนหลายแสนคนเดินขบวนอย่างสงบบนถนนสายต่างๆ ในกรุงฮาราเร เพื่อฉลองการโค่นล้มประธานาธิบดี โรเบิร์ต มูกาเบ
เอเจนซีส์ – ชาวซิมบับเวเรือนแสนฉลองการปลดปล่อยประเทศครั้งที่สอง ท่ามกลางข่าวผู้นำพรรครัฐบาลนัดประชุมอนุมัติการลาออกของมูกาเบในวันอาทิตย์ (19 พ.ย.) รวมทั้งคืนตำแหน่งรองประธานาธิบดีให้เอ็มนันกักวา และขับไล่ "เกรซ" ภรรยาที่อายุห่างจากมูกาเบกว่า 40 ปี พ้นตำแหน่งประธานสันติบาตสตรีของซานู-พีเอฟ ขณะที่สถานีทีวีรายงานผู้นำเผด็จการวัย 93 ปีจะพบกับผู้บัญชาการทหารในวันเดียวกัน

เมื่อวันเสาร์ (18 พ.ย.) ประชาชนหลายแสนคนเดินขบวนอย่างสงบบนถนนสายต่างๆ ในกรุงฮาราเร เพื่อฉลองการโค่นล้มประธานาธิบดี โรเบิร์ต มูกาเบ

สถานีทีวีของรัฐบาลซิมบับเวรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า มูกาเบจะพบกับผู้บัญชาการกองทัพในวันอาทิตย์ หลังจากทั้งสองฝ่ายพบกันครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) เพื่อเสนอทางลงอย่างสง่างามให้มูกาเบ

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่า มูกาเบกำลังพยายามต่อรองเพื่อชะลอการลงจากอำนาจ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยในอนาคตของตนและครอบครัว

เมื่อวันศุกร์ (17 พ.ย.) ผู้นำวัยชรารายนี้ ยังได้ร่วมพิธีมอบปริญญาเพื่อแสดงการแข็งขืนต่อพลเอกคอนสแตนติโน ชิเวงกา ผู้บัญชาการทหารบกที่เป็นผู้นำการยึดอำนาจ

แหล่งข่าวยังเผยว่า ผู้นำพรรคซานู-พีเอฟ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลจะนัดประชุมอนุมัติการลาออกของมูกาเบในวันอาทิตย์ โดยขณะนี้ สาขา 9 ใน 10 ของพรรคเรียกร้องให้มูกาเบลงจากตำแหน่ง

นอกจากนี้ยังคาดว่า คณะกรรมการกลางพรรคซานู-พีเอฟ จะแต่งตั้งเอมเมอร์สัน เอ็มนันกักวา กลับสู่ตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งเท่ากับเป็นการคืนชีพทางการเมืองของอดีตผู้บัญชาการหน่วยงานความมั่นคง หรือ “เดอะ คร็อกโคไดล์” ที่ถูกมูกาเบปลดในเดือนนี้ นำไปสู่การแทรกแซงของกองทัพเมื่อวันพุธ

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวเผยว่า เกรซ ภรรยาวัย 52 ปีของมูกาเบ จะถูกขับออกจากตำแหน่งประธานสันติบาตสตรีของซานู-พีเอฟ และปิดฉากเส้นทางการเมืองของอดีตเจ้าหน้าที่พิมพ์ดีดรัฐบาล ซึ่งเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วยังเป็นตัวเก็งสืบทอดอำนาจจากสามี หลังจากเอ็มนันกักวาถูกปลด

การตกจากอำนาจอย่างเหลือเชื่อของสามีภรรยาคู่นี้มีแนวโน้มสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วแอฟริกาที่ผู้นำอย่างโยเวรี มูเซเวนี ของยูกันดา และโจเซฟ คาบิลา จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก กำลังถูกกดดันให้ลาออก

ภาพชาย หญิง และเด็ก วิ่งตามขบวนรถหุ้มเกราะและทหารที่เข้าแทรกแซงการเมืองเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อปลดผู้นำเผด็จการที่ปกครองซิมบับเวนับตั้งแต่ประกาศเอกราชจากอังกฤษในปี 1980 นั้น เตือนความจำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับนิโคไล เชาเชสกู ผู้นำเผด็จการโรมาเนียที่ตกบัลลังก์ในปี 1989

มูกาเบที่ถูกกักบริเวณในที่พักสุดหรู “บลู รูฟ” ปฏิเสธลงจากตำแหน่งทั้งที่เห็นว่า การสนับสนุนจากพรรค หน่วยงานความมั่นคงและประชาชน เจือจางลงอย่างชัดเจนในช่วงเวลาไม่ถึง 3 วันที่ผ่านมา

แพทริก ซูเวา หลานชายมูกาเบ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มูกาเบและภรรยา “ยอมตายเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง” แทนที่จะลาออกเพื่อให้การรัฐประหารมีความชอบธรรม

แต่ประชาชนบนถนนหาได้ใส่ใจกับความถูกต้องทางกฎหมายไม่ โดยพากันออกไปฉลอง “การปลดปล่อยครั้งที่สอง” และพูดถึงความฝันในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจหลังจากเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงและความยากจนข้นแค้นนานถึง 2 ทศวรรษ

ฝูงชนในกรุงฮาราเรดูเหมือนเห็นด้วยกับการกล่าวอ้างของกองทัพว่า การเข้ายึดอำนาจครั้งนี้มีผลน้อยมากต่อการถ่ายโอนอำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญ ทั้งยังช่วยหลีกเลี่ยงปรากฏการณ์ประชาธิปไตยตีกลับ และการตำหนิที่มักติดตามมาภายหลังการปฏิวัติ

อเมริกาที่วิจารณ์มูกาเบมานาน ระบุว่า เฝ้ารอ “ยุคใหม่” ในซิมบับเว ขณะที่ประธานาธิบดีเอียน คามาของบอสวานา ประเทศเพื่อนบ้านของซิมบับเว กล่าวว่า มูกาเบไม่ได้รับการสนับสนุนทางการทูตในภูมิภาคและควรลาออกทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น