เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – โลแกน เมลการ์(Logan Melgar) นายทหารหน่วยรบพิเศษหน่วยกรีนเบอเรต์ ถูกพบเป็นศพในสถานทูตสหรัฐฯ กรุงบามาโก มาลี เมื่อวันที่ 4 มิ.ย ก่อนหน้า หลังถูกสมาชิกหน่วยซีลของสหรัฐฯ 2 นายสังหาร เหตุจับได้ "นักรบซีลแอบยักยอกเงินที่จะให้แหล่งข่าวเข้ากระเป๋าตัวเอง" แต่เรื่องแดงหลังผลชันสูตรออก ไม่พบแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดของผู้ตายตามที่พวกซีลอ้างกับหน่วยเหนือ ตายเพราะดื่มระหว่างฝึก
เดลิเมล สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(13 พ.ย)ว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดในการสอบสวนให้ข้อมูลถึงเงื่อนงำการเสียชีวิตของ จ่าสิบตรีโลแกน เมลการ์(Logan Melgar) นายทหารหน่วยรบพิเศษหน่วยกรีนเบอเรต์แห่งกองทัพบกสหรัฐฯ ที่ถูกพบเป็นศพในมาลีเมื่อวันที่ 4 มิ.ย ต้นปีนี้
สื่ออังกษชี้ว่า เมลการ์ต้องถึงแก่ชีวิตหลังเขาเผชิญหน้ากับสมาชิกรบพิเศษซีลทีม 6 ที่มีซื่อเสียง ซึ่งในอดีตหน่วยนี้เคยถูกส่งไปลอบสังหารโอซามะ บิน ลาเดน มาแล้ว แต่ทว่าเมื่อครั้งเดือนมิถุนายนล่าสุด กลับพบว่า สมาชิกหน่วยซีลลงมือสังหารเมลการ์จากหน่วยรบพิเศษกรีนเบอเรต์ของสหรัฐฯ หลังเมลการ์พบว่า ซีลทั้ง 2 นายแอบขโมยเงินจากปฎิบัติการพิเศษสหรัฐฯ
ทั้งนี้พบว่าโลแกน เมลการ์เสียชีวิตเนื่องมาจากขาดอากาศหายใจในเวลาราว 05.00 น. ของวันที่ 4 มิ.ย ซึ่งตามรายงานชี้ว่า มีการเร่งนำตัวเมลการ์ส่งคลินิกฝรั่งเศสในมาลี แต่เขาในวัย 34 ปีเสียชีวิตไปแล้วเมื่อเดินทางไปถึงคลินิกแห่งนั้น โดยทางซีลได้อ้างต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า ***เมลการ์ดื่มในระหว่างการฝึกต่อสู้ด้วยมือเปล่า***
สื่ออังกฤษชี้ว่า เรื่องแดงขึ้นเมื่อผลการชันสูตรของนายทหารกรีนเบอเรต์ออกมา แต่ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือยาอยู่ในกระแสเลือดในช่วงเวลาที่เสียชีวิต
แหล่งข่าวใกล้ชิดได้เปิดเผยกับสื่อข่าวการเมืองสหรัฐฯ เดลีบีสต์ว่า ก่อนที่เมลการ์จะเสียชีวิตไม่นาน เขาได้บอกภรรยา มิเชล(Michelle) ว่า เขารู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับสมาชิก 2 คนของหน่วยซีลที่ร่วมอยู่ในปฎิบัติการพิเศษกับเขา
ทั้งนี้เป็นที่รู้ดีว่า หน่วยรบพิเศษซีลของสหรัฐฯสร้างชื่อไปทั่วโลกด้วยการสามารถลอบสังหารอดีตหัวหน้าเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ โอซามะ บิน ลาเดน ที่อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ปี 2011 แต่อย่างไรก็ตาม จ่าสิบตรีเมลการ์ไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียดผ่านอีเมลเพื่อบอกให้มิเชลผู้เป็นภรรยาได้รู้ แต่สัญญาว่าจะเปิดเผยเมื่อเดินทางกลับสหรัฐฯแล้ว
เดลิเมลรายงานต่อว่า ก่อนที่เมลการ์จะเสียชีวิต พบว่าเขาสังกัดในกลุ่มปฎิบัติการพิเศษที่ 3 ของกองทัพสหรัฐฯ และถูกส่งมายังมาลี โดยเขาอาศัยอยู่ภายในกรุงบามาโกไม่กี่เดือนก่อนที่จะถูกสังหาร ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่า ปฎิบัติการพิเศษนี้เกี่ยวกับการหาข่าวกรอง และเงินที่สมาชิกหน่วยซีล 2 นายแอบยักยอกเป็นเงินที่ถูกกำหนดสำหรับการจ่ายให้กับผู้ที่ให้ข้อมูลความลับ
แหล่งข่าวปฎิบัติการพิเศษสหรัฐฯ 2 นายให้ข้อมูลกับเดลีบีสต์ว่า เมลการ์คนพบว่า สมาชิกซีล 2 นายแอบยักยอกเงินปฎิบัติการข่าวกรองเพื่อเข้ากระเป๋าของคนเหล่านั้น และเมื่อนายทหารรบพิเศษกรีนเบอเรต์เผชิญหน้ากับคนทั้งสองเพื่อถามถึงความจริงในเรื่องนี้ คนทั้งคู่เสนอเงินปิดปากเพื่อให้เรื่องเงียบ แต่เมลการ์ปฎิเสธ
แต่อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษชี้ว่า ยังไม่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 4 มิ.ย ระหว่างเมลการ์และสมาชิกซีลทั้งสองที่นำมาสู่การเสียชีวิตของเมลการ์ในเวลาต่อมา แหล่งข่าวชี้ว่า สถานการณ์มาถึงจุดที่โลแกน เมลการ์หมดสติ และหยุดหายใจ ที่บ่งชี้ไปในทิศทางว่าเขาถูกทำให้ขาดอากาศ
เจ้าหน้าที่อ้างว่า ท่ามกลางความตื่นตระหนกพวกซีลพยายามที่จะเปิดทางเดินอากาศของเมลการ์บริเวณต้นคอ แต่เมื่อไม่เป็นผล ทางซีล 2 นายที่ก่อเหตุได้แจ้งไปที่ทหารกรีนเบอเรต์อีกนายที่อยู่ในปฎิบัติการว่า เมลการ์หมดสติ และทำให้นายทหารทั้ง 3 นายหามโลแกน เมลการ์ไปยังคลินิกฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ในมาลีอย่างเร่งรีบ
ในรายงานชี้ว่า เมลการ์เสียชีวิตในระหว่างการเดินทาง แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นในเวลาใด ทราบแต่เพียงว่าเป็นการเสียชีวิตเนื่องมาจากการขาดอากาศหายใจ แต่มีรายงานโดยอ้างจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า ร่างของจ่าสิบตรีโลแกน เมลการ์ถูกพบอยู่ในห้องหนึ่งภายในสถานทูตสหรัฐฯประจำมาลี
หน่วยเหนือของเมลการ์เชื่อว่า การเสียชีวิตของเมลการ์อาจมีเบื้องหลัง และได้จัดการตั้งเจ้าหน้าที่สอบสวนที่เกิดเหตุภายใน 24 ช.ม
สื่ออังกฤษชี้ต่อว่า สมาชิกซีล 2 คนที่สังหารเมลการ์ได้โกหกต่อหน่วยเหนือว่า เมลการ์ดื่มในระหว่างการฝึกต่อสู้แบบที่ไม่ใช้อาวุธ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาถูกน็อกและหมดสติลงหลังจากนั้น และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งขัดแย้งกับผลการชันสูตร โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดรายหนึ่งยืนยันว่า เมลการ์ไม่ได้ดื่มด้วยซ้ำ
ด้านนายพลจัตวาโดนัลด์ โบลดัค( Donald Bolduc) ผู้บัญชาการหน่วยปฎิบัติการรบพิเศษแอฟริกา สงสัยถึงการให้ปากคำของสมาชิกซีล และรายงานเบื้องต้นของการเสียชีวิตของเมลการ์ที่ออกมา ได้ออกคำสั่งให้ผู้บัญชาการระดับสูงในกองกำลังแอฟริกาให้เก็บรักษาหลักฐานไว้
แหล่งข่าว 3 คนให้การว่า ภรรยาของนายทหารที่เสียชีวิตมีความสงสัยในการตายของสามี ได้ติดต่อหน่วยเหนือของสามี พร้อมมอบหลักฐานอีเมลที่มี พร้อมข้อสงสัยในการเสียชีวิต และการดื่มของสามี ซึ่งในอีเมลพบว่า เมลการ์ได้เปิดเผยถึงปัญหาที่เขามีต่อสมาชิกหน่วยซีลทั้ง 2 นายนั้น
เดลีเมลรายงานข่าวดีว่า ในเวลานี้ผู้ต้องสงสัยซีลทีม 6 ทั้ง 2 นายถูกสั่งพักงาน และในเวลานี้ถูกนำตัวส่งมาจากมาลี กลับมายังสหรัฐฯแล้ว โดยคนทั้งคู่ถูกสอบสวนในคดีสังหารจ่าสิบตรีโลแกน เมลการ์ ซึ่งพบว่าหน่วย NCIS ร่วมอยู่ในการสอบสวนครั้งนี้ โดยโฆษกของทางหน่วยได้ยืนยันกับสื่อ CNN สหรัฐฯว่า ในเดือนที่ผ่านมาทาง NCIS กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนว่าสมาชิกรบพิเศษแห่งกองทัพเรือสหรัฐนั้นเกี่ยวข้องกับการสังหารจ่าสิบตรีโลแกน เมลการ์แห่งกองทัพบกสหรัฐฯหรือไม่
สื่ออังกฤษรายงานว่า รายงานการสอบสวนถูกเปิดเผยครั้งแรกโดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส สร้างความตกตะลึงไปทั่วชุมชนปฎิบัติการพิเศษสหรัฐฯ
ทั้งนี้พบว่า หน่วยรบซีล 8 ทีมอยู่ภายใต้สังกัดกองบัญชาการสงครามพิเศษกองทัพเรือสหรัฐ แต่ซีลทีม 6 ซึ่งต่อต้านปฎิบัติการก่อการร้ายอยู้ใต้สังกัดหน่วยปฏิบัติการสงครามพิเศษกองทัพเรือสหรัฐ DEVGRU