เอเอฟพี - ซาอุดีอาระเบียในวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.) เปิดเผยว่ามีบุคคลต่างๆ 201 รายกำลังอยู่ภายใต้การควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำ ในการกวาดล้างคอร์รัปชันครั้งใหญ่ในหมู่ชนชั้นสูง โดยคาดกันว่าปัญหาทุจริตและฉ้อฉลสร้างความสูญเสียอย่างน้อยๆ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
“จนถึงตอนนี้มีบุคคลต่างๆ รวม 208 คนที่ถูกเรียกมาสอบปากคำ ในบรรดา 208 คน มีอยู่ 7 รายที่ได้รับการปล่อยตัวไปโดยไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ” กระทรวงข่าวสารซาอุดีอาระเบียบระบุในถ้อยแถลง
เจ้าชายอัลวาลิด บิน ตาลัล มหาเศรษฐีพันล้าน และเจ้าของบริษัทการลงทุน คิงดอม โฮลดิงส์ เป็น 1 ในเจ้าชาย 11 องค์, รัฐมนตรี 4 คน และอดีตรัฐมนตรีอีกหลายสิบคนที่ถูกควบคุมตัวหรือถูกปลดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในการกวาดล้างคอรัปชั่นในหมู่ชนชั้นสูงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของซาอุดีอาระเบีย
ทางการได้อายัดบัญชีธนาคารของผู้ถูกกล่าวหาและเตือนว่าทรัพย์สินต่างๆ ที่พัวพันกับคดีคอร์รัปชันจะถูกยึดเป็นของแผ่นดิน ในขณะที่รัฐบาลเตรียมขยายปฏิบัติการปราบปรามให้กว้างขึ้น
“ขอบเขตคอร์รัปชันที่พบนั้นกว้างขวางมาก” กระทรวงข่าวสารระบุ “จากการสืบสวนของเราในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประมาณการว่าเงินอย่างน้อย 100,000 ล้านดอลลลาร์สหรัฐ ถูกใช้ไปในทางมิชอบผ่านการทุจริตคอรัปชันและฉ้อฉลอย่างเป็นระบบตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา”
การปราบปรามครั้งมโหฬารมีขึ้นหลังจากสมเด็จพระราชาธิบดีซาลมานมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมาธิการปราบปรามการทุจริตแห่งใหม่ภายใต้การควบคุมของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน พระโอรสที่มีพระชนม์ 32 พรรษา ที่จัดการรวบอำนาจอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ขึ้นมายิ่งใหญ่ แม้ว่าเป็นผู้ที่แทบไม่มีใครรู้จักเมื่อไม่ถึง 3 ปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่า ความเคลื่อนไหวนี้มีเป้าหมายมากกว่าการล้างบางคอร์รัปชัน โดยยังมุ่งขจัดเสี้ยนหนามของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด ที่ต้องการผลักดันมาตรการปฏิรูปขนาดใหญ่ซึ่งทำให้เกิดการต่อต้าน
เมื่อเดือนกันยายน เจ้าชายโมฮัมเหม็ดประกาศยกเลิกการห้ามผู้หญิงขับรถ และพยายามยกเลิกธรรมเนียมอนุรักษนิยมที่ยึดถือปฏิบัติกันมาหลายสิบปีด้วยการส่งเสริมความบันเทิงและให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ในด้านนโยบายต่างประเทศ เจ้าชายพระองค์นี้ตัดงบประมาณในการดำเนินงานบางส่วนของรัฐ และมีแผนนำกิจการของรัฐออกขาย