“ทรัมป์” ขู่ส่งตีนผีนิวยอร์กไปขัง “คุกกวนตานาโม” จี้คองเกรสพับโครงการวีซ่าที่ปล่อยให้คนร้ายเข้าประเทศ

รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ฉวยโอกาสหลังเกิดเหตุโจมตีนิวยอร์กเรียกร้องให้สภาคองเกรสแก้กฎหมายคนเข้าเมืองให้มีความเข้มงวด ยกเลิกโครงการวีซ่าซึ่งเปิดทางให้ตีนผีชาวอุซเบกเข้ามาอาศัยในสหรัฐฯ พร้อมขู่จะส่งชายหัวรุนแรงรายนี้ไปยังเรือนจำความมั่นคงสูงที่อ่าวกวนตานาโม

ส.ว.ชัค ชูเมอร์ จากพรรคเดโมแครต กล่าวหา ทรัมป์ ว่ากำลังใช้ความโศกเศร้าของคนในชาติมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ก็โต้กลับว่า ชูเมอร์ เองนั่นแหละที่จะต้องรับผิดชอบกับเหตุโจมตีซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ในนิวยอร์กไป 8 ราย เนื่องจากเป็นคนผลักดันโครงการวีซ่าซึ่ง “เซฟุลโล ไซปอฟ” คนร้ายชาวอุซเบกิสถาน ใช้เดินทางเข้าสหรัฐฯ

ทรัมป์ ระบุวานนี้ (1 พ.ย.) ว่ากำลังพิจารณาส่งตัว ไซปอฟ ไปคุมขังที่เรือนจำทหารซึ่งตั้งอยู่ภายในฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในอ่าวกวนตานาโมของคิวบา โดยเรือนจำแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น “คุกมหาโหด” ที่อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา เคยพยายามสั่งปิดแต่ก็ไม่สำเร็จ และยังไม่เคยมีการส่งนักโทษไปที่นั่นอีกเลยตั้งแต่ปี 2008

ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ทรัมป์ กำลังพิจารณาประกาศให้ตีนผีรายนี้เป็น “นักรบฝ่ายศัตรู” ซึ่งจะทำให้เขาถูกตัดสิทธิ์ทางกฎหมาย

ทรัมป์ ประณาม ไซปอฟ ว่าเลวเหมือน “สัตว์” และยังวิจารณ์กระบวนการยุติธรรม ที่สหรัฐฯ ใช้จัดการกับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายว่า “น่าขำ”

ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือน ม.ค. ทรัมป์พยายามขับไล่ผู้อพยพผิดกฎหมายออกจากสหรัฐฯ ไปให้มากที่สุด และจำกัดการรับผู้อพยพถูกกฎหมายเข้าประเทศ

กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ระบุว่า ไซปอฟ เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2010 ผ่านโครงการวีซ่าความหลากหลาย (diversity visa program) ซึ่งมุ่งให้ถิ่นพำนักแก่พลเมืองของประเทศที่มีประวัติการอพยพเข้าอเมริกาค่อนข้างน้อย

ทรัมป์ เอ่ยย้ำจุดยืนที่ตนประกาศไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียงจนกระทั่งได้เป็นประธานาธิบดีว่า กฎหมายคนเข้าเมืองที่เข้มงวดคือปราการด่านแรกที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุโจมตีลักษณะนี้ขึ้น

“ผมจะเสนอไปยังคองเกรสทันทีให้เริ่มลงมือปิดโครงการที่ว่านี้เสีย” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบขาว

“เราจะต้องเข้มงวดกันมากขึ้น ต้องฉลาดขึ้น และเพลาๆ เรื่องความถูกต้องทางการเมือง (political correctness) ลงหน่อย ทุกวันนี้เราแคร์เรื่องความถูกต้องทางการเมืองจนไม่กล้าทำอะไรแล้ว”

โครงการวีซ่าความหลากหลายจะคัดเลือกผู้สมัครปีละ 50,000 คนที่จะได้รับวีซ่าและได้เป็นผู้พำนักถาวรในที่สุด ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องถูกตรวจสอบประวัติ ก่อนได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกา

ทรัมป์ เสนอให้ใช้เกณฑ์การออกวีซ่าที่เน้น “คุณสมบัติ” เพื่อคัดกรองเอาแต่ประชากรที่มีทักษะสูง และยุติการโยกย้ายแบบลูกโซ่ (chain migration) ซึ่งผู้อพยพถูกกฎหมายมักจะทำเรื่องขอพาญาติๆ เข้ามาอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ด้วย