เอเอฟพี - ตำรวจสหรัฐฯ เผยในวันพุธ (1 พ.ย.) เซฟูลโล ไซปอฟ ชาวอุซเบกิสถาน วัย 29 ปี วางแผนล่วงหน้าหลายสัปดาห์ ก่อนลงมือโจมตีในนามกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ขับรถกระบะพุ่งชนคนเดินถนนบนทางเท้า และคนขี่จักรยานบนลู่จักรยานกลางวันแสกๆ แถบเวสต์ไซต์ของย่านโลเวอร์แมนฮัตตัน คร่าชีวิต 8 ศพ ถือเป็นเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดในนิวยอร์ก นับตั้งแต่โศกนาฏกรรม 9/11
เจ้าหน้าที่เผยว่า โซปอฟ คนเข้าเมืองชาวอุซเบกิสถาน ที่ย้ายมาอยู่ในสหรัฐฯ เมื่อปี 2010 ใช้รถกระบะที่เช่ามาพุ่งชนคนเดินถนนและนักปั่นจักรยานตามเส้นทางจักรยานระยะทางราวๆ 1 ไมล์ (ประมาณ 1.6 กิโลเมตร) ในแถบเวสต์ไซต์ของย่านโลเวอร์แมนฮัตตันเมื่อวันอังคาร (31 ต.ค.)
“จากการสืบสวนเมื่อคืนนี้ ดูเหมือนว่านายไซบอฟได้วางแผนการโจมตีนี้มานานหลายสัปดาห์แล้ว” จอห์น มิลเลอร์ รองผู้บัญชาการกรมตำรวจนิวยอร์กเปิดแถลงข่าว “เขาทำมันในนามของไอเอส ดูเหมือนเขาว่าจะทำตามตรงเป๊ะต่อคำสั่งของพวกไอเอสที่ส่งถึงสมุนของพวกเขาผ่านช่องทางทางสื่อสังคมออนไลน์ของกลุ่ม”
ถ้อยแถลงของมิลเลอร์ สอดคล้องกับรายงานข่าวของซีเอ็นเอ็นและนิวยอร์กไทมส์ ที่เผยว่า ผู้ต้องสงสัยทิ้งโน้ตไว้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีข้อความระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำในนามของกลุ่มรัฐอิสลาม
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) และตำรวจนิวยอร์กเรียกร้องให้ประชาชนแจ้งข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ในการสอบสวน ซึ่งนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ผู้ต้องสงสัยลงมือคนเดียว
ตำรวจยิง ไซปอฟ ได้รับบาดเจ็บหลังก่อเหตุโจมตี และตอนนี้เขายังคงนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและรัฐบาลกลางลงมือขุดคุ้นประวัติของไซบอฟโดยทันทีหลังเขาก่อเหตุโจมตี ซึ่งเกิดขึ้นใกล้โรงเรียนหลายแห่งที่เด็กๆ และพ่อแม่กำลังเตรียมตัวฉลองฮัลโลวีน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าเขาไม่เคยอยู่ในการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ต่อต้านก่อการร้ายมาก่อน
“ไซบอฟ ไม่เคยอยู่ภายใต้การสืบสวนของสำนักงานข่าวกรองกรมตำรวจนิวยอร์ก หรืออยู่ภายใต้การสืบสวนของเอฟบีไอ” มิลเลอร์กล่าว
บิลล์ เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กล่าว ณ การแถลงข่าวเดียวกัน บอกว่าการแข่งขันนิวยอร์กมาราธอน จะจัดขึ้นตามแผนเดิม แต่เตรียมเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นยิ่งขึ้น ในนั้นรวมถึงนำรถกระบะบรรทุกทรายเข้ามาจอดเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการใช้ยานพาหนะโจมตี เสริมตำรวจประจำการตามดาดฟ้าและหน่วยต่อต้านการซุ่มยิง เช่นเดียวกับมาตรการอื่นๆ