ซีเอ็นเอ็น - ฝูงบินขับไล่ F/A-18 แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ต้องรุดบินขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน เข้าประกบเครื่องบินทิ้งระเบิด TU-95 ของรัสเซีย 2 ลำ ที่โฉบเข้าใกล้เรือเมื่อวันอาทิตย์ (29 ต.ค.) จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กลาโหมอเมริกา 2 นายในวันพุธ (1 พ.ย.) ขณะที่ต่างฝ่ายต่างส่งกำลังเข้ามาในแถบทะเลญี่ปุ่นและคาบสมุทรเกาหลี ท่ามกลางความตึงเครียดเกี่ยวกับวิกฤตโครงการนิวเคลียร์เปียงยาง
เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ บอกว่าการเข้าประกบเพื่อสื่อสารครั้งนี้เกิดขึ้นตอนที่ฝูงบินทิ้งระเบิดของรัสเซียบินอยู่ห่างจากเรือบรรทุกเครื่องบินของอเมริกา 80 ไมล์ (ราว 128 กิโลเมตร) โดยมันเป็นไปอย่างปลอดภัยและเป็นมืออาชีพ ขณะที่เครื่องบินของมอสโกก็ดำเนินการตามโดยปราศจากเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ
เรือบรรทุกเครื่องบินกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในทะเลญี่ปุ่น (ทะเลตะวันออก) ตอนที่เกิดเหตุ
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เรือบรรทุกเครื่องบิน 3 ลำของสหรัฐฯ ได้แก่ ยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน, ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ และยูเอสเอส นิมิตซ์ กำลังปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ปฏิบัติการของกองเรือที่ 7 แห่งกองทัพเรืออเมริกา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันออกของอินเดียและทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก
โดย ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ และยูเอสเอส นิมิตซ์ เพิ่งเดินทางมาเข้าร่วมกับ ยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน ซึ่งประจำการในญี่ปุ่น ในภูมิภาคแถบนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในขณะที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเจาะจงเกี่ยวกับภารกิจของ ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ และยูเอสเอส นิมิตซ์ แต่การส่งเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปเพิ่มเติมในภูมิภาคแถบนี้ดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก
เกือบแน่นอนว่าการประจำการทหารเพิ่มเติมของสหรัฐฯ มีเจตนาส่งสารไปยังเกาหลีเหนือ แต่ขณะเดียวกัน มันก็เป็นการส่งสัญญาณถึงรัสเซียและจีนด้วย เนื่องจากทั้งสองชาติกำลังพยายามขยายฐานที่มั่นของตนเองในภูมิภาคนี้
รัสเซียส่งฝูงบินทิ้งระเบิดบินเหนือคาบสมุทรเกาหลีในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ส่งสัญญาณถึงปักกิ่งและวอชิงตันว่า มอสโก ก็กำลังปักหมุกในเอเชียด้วยเช่นกัน