เอเอฟพี - สนามบินชางงีของสิงคโปร์เปิดอาคารผู้โดยสารล้ำสมัยที่มีระบบเช็กอินอัตโนมัติเต็มรูปแบบ รวมถึงการแสกนใบหน้าและทำให้จุดวางกระเป๋าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ แต่ผู้โดยสารบางคนประสบปัญหาในการใช้เทคโนโลยีใหม่นี้
อาคารผู้โดยสาร 4 ที่ใช้งบประมาณในการสร้าง 985 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์จะรองรับผู้โดยสารได้ 16 ล้านคนต่อปีและมีจุดประสงค์เพื่อรับมือกับจำนวนผู้โดยสารที่น่าจะเพิ่มขึ้นผ่านหนึ่งในศูนย์กลางการเดินทางของเอเชียแห่งนี้
อาคารผู้โดยสารแห่งนี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ หมายความว่าในทางทฤษฎีผู้โดยสารน่าจะสามารถเช็คอินและขึ้นเครื่องได้โดยไม่ต้องคุยกับเจ้าหน้าที่สนามบินเลย
ในวันแรกของการเปิดทำการ ผู้โดยสารกว่า 100 คนเดินทางเข้ามาในช่วงเช้าเพื่อประเดิมใช้บริการในเที่ยวบินไปฮ่องกงของสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำความเข้าใจกับเครื่องเช็กอินด้วยตนเองนี้ได้ ทำให้บางคนต้องกลับไปใช้เคาน์เตอร์ที่มีเจ้าหน้าที่สนามบินประจำแทน
“ผมคิดว่ามันต้องใช้เวลาเพื่อให้คนและระบบคุ้นเคยกับมัน” โล เคหลิง ที่พยายามใช้เครื่องบริการตนเองสองเครื่องก่อนที่จะยอมแพ้และไปที่เคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ บอกกับเอเอฟพี
ณ ประตูทางออกขึ้นเครื่อง นักเดินทางหลายคนก็ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีแสกนใบหน้าและถูกส่งกลับไปยังเคาน์เตอร์
สนามบินชางงีที่ได้รับการโหวตให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกเป็นหนึ่งในสนามบินทั่วโลกที่นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในขณะที่การต่อสู้แย่งชิงนักเดินทางมีความดุเดือดมากขึ้น เช่นเดียวกับจุดศูนย์กลางแห่งอื่นๆ อย่างฮ่องกงและดูไบ สิงคโปร์กำลังพยายามดึงดูดนักเดินทางจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการเดินทางเช่นจากออสเตรเลียไปยุโรป ผู้ที่สามารถเลือกจัดเส้นทางการเดินทางของตนเอง
ชาวจีนแผ่นดินใหญ่จำนวนมากก็กำลังไปเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และมีการแข่งขันกันระหว่างสิงคโปร์และจุดศูนย์กลางอื่นๆ ในภูมิภาค เช่น กรุงเทพมหานคร และกัวลาลัมเปร์ เพื่อดึงดูดนักเดินทางกลุ่มใหม่นี้