เอเอฟพี - พอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันจันทร์ (30 ต.ค.) ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดต่อต้านสหรัฐฯ และฟอกเงิน ในฟ้องร้องคดีแรกที่เกี่ยวข้องกับกับการสืบสวนกรณีคำกล่าวหารัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2016 ขณะที่ประธานาธิบดีอมริกาโพสต์ทวิตเตอร์ตอบโต้ทันควัน ยืนกรานไม่มีการสมรู้ร่วมคิดใดๆ
มานาฟอร์ต วัย 68 ปี และ ริก เกตส์ คู่หูทางธุรกิจวัย 45 ปี ถูกตั้งข้อกล่าวตามคำกล่าวอ้างปกปิดเงินรายได้หลายล้านดอลลาร์เมื่อครั้งที่พวกเขารับงานเป็นที่ปรึกษาของวิกตอร์ ยานูโคิช อดีตประธานาธิบดียูเครนและพรรคการเมืองฝักใฝ่มอสโกของเขา
อย่างไรก็ตาม มานาฟอร์ต และ เกตส์ ต่างให้การปฏิเสธระหว่างขึ้นให้การต่อศาลวอชิงตันในวันจันทร์ (30 ต.ค.)
โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษเป็นผู้แถลงเกี่ยวกับการตั้งข้อหาทั้งสองคนซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดของทรัมป์ 2 รายแรกที่ถูกดำเนินคดี ที่เป็นผลมาจากการสืบสวนคำกล่าวหาสมคบคิดกับรัสเซียพยายามแกว่งผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้เข้าทางทรัมป์
“มานาฟอร์ต และเกตส์ ก่อรายได้หลายสิบล้านดอลลาร์จากการทำงานให้แก่ยูเครน” คำฟ้องของรัฐระบุ “เพื่อซุกเงินที่ได้รับจากยูเครนจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงราวๆ ปี 2006 จนถึงปี 2016 เป็นอย่างน้อย มานาฟอร์ตและเกตส์ ทำการฟอกเงินผ่านบริษัทอเมริกาและต่างชาติหลายแห่ง หุ้นส่วนและบัญชีธนาคาร”
รวมแล้วมานาฟอร์ต และเกตส์ ถูกคณะลูกขุนใหญ่ตั้งข้อหา 12 กระทงโทษฐานฉ้อโกงสหรัฐฯ สมคบคิดฟอกเงิน, ไม่ยอมขึ้นทะเบียนในฐานะตัวแทนต่างชาติ, ให้การเท็จและไม่ยอมแจ้งเกี่ยวกับบัญชีการเงินนอกประเทศ
ก่อนหน้านี้ มานาฟอร์ตและชายนิรนามคนหนึ่งถูกกล้องของสถานีโทรทัศน์จับภาพไว้ได้ขณะเดินเข้าไปยังสำนักงานภาคสนามของเอฟบีไอในวอชิงตัน เพื่อเข้ามอบตัวตอน 08.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 19.15 น.)
มานาฟอร์ตเคยถูกระบุว่า เป็นหนึ่งในคนใกล้ชิดของทรัมป์ ที่เข้าประชุมร่วมกับทนายความซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเครมลินรายหนึ่ง ณ อาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2016 การพบปะที่กระพือข้อสงสัยสมคบคิดระหว่างทีมหาเสียงของทรัมป์กับมอสโก
การพบปะกันดังกล่าวเตรียมการโดย โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ ด้วยความหวังว่าจะได้รับข้อมูลที่สามารถบ่อนทำลายฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต
การฟ้องร้องครั้งนี้ไม่ได้พาดพิงถึงความเกี่ยวข้องในศึกรณรงค์หาเสียงสหรัฐฯ ของรัสเซีย แต่พุ่งเป้าไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างมานาฟอร์ตกับยูเครนก่อนหน้านั้นแทน
หลังเป็นผู้ปฏิบัติงานและที่ปรึกษาทางการเมืองมาอย่างยาวนาน ในเดือนมีนาคม 2016 มานาฟอร์ตถูกคัดสรรในฐานะบรรดาคณะผู้เลือกตั้งที่ฝักใฝ่ทรัมป์ ให้เข้าร่วมประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน จากนั้นในเดือนมิถุนายน ทรัมป์ ก็แต่งตั้งให้เขาเป็นผู้จัดการทีมหาเสียง แทน คอรีย์ เลวานโดวสกี ที่ถูกไล่ออก
แต่เขาลาออกในเดือนสิงหาคม หลังคณะสืบสวนคอรัปชันยูเครนเปิดเผยเอกสารที่เผยว่ามีการจ่ายเงินจำนวนมากเข้าบริษัทต่างๆ ของมานาฟอร์ต และเริ่มเป็นที่ชัดเจนว่าเขากำลังโดนสืบสวนในสหรัฐฯ ในกรณีดังกล่าว
ด้วยการสืบสวนของ มุลเลอร์ คืบหน้าเข้าสู่ขั้นใหม่ พวกเจ้าหน้าที่รีพับลิกันและสื่ออนุรักษ์นิยมได้ลุกขึ้นมาโจมตีพวกเดโมแครต โดยเฉพาะคลินตัน แต่ฝ่ายตรงข้ามมองว่าคำกล่าวหาดังกล่าวน่าจะเป็นความพยายามเบี่ยงเบนความสนใจมากกว่า
เมื่อวันอาทิตย์ (29 ต.ค.) ทรัมป์ เขียนลงทวิตเตอร์อีกครั้ง คร่ำครวญถึงกรณีที่ คลินตัน ใช้อีเมลส่วนตัวในงานราชการขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ และกรณีสหรัฐฯ ขายสิทธิ์ยูเรเนียมแก่รัสเซียในสมัยรัฐบาลของโอบามา
ในวันจันทร์ (30 ต.ค.) หลังจากทราบข่าวการตั้งข้อหา ทรัมป์ปฏิเสธไม่ยอมรับการฟ้องร้องอดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของเขา พร้อมยืนยันว่าไม่มีการสมคบคิดกับรัสเซีย และเรียกร้องให้ดำเนินการสืบสวน คลินตัน คู่ปรับทางการเมืองของเขาด้วย “ขอโทษนะ แต่นี่มันหลายปีก่อนที่ พอล มานาฟอร์ต จะเข้าร่วมทีมหาเสียงของทรัมป์ แต่ทำไมถึงได้อยู่ในความสนใจของพวกขี้โกง ฮิลลารี & เดโมแครต ?????" และ มันไม่มีการสมคบคิดใดๆ เลย”