รอยเตอร์ - อัฟกานิสถานถูกโจมตี 2 ครั้งซ้อนในเวลาไล่เลี่ยกัน คร่าชีวิตผู้คนรวมกว่าครึ่งร้อยช่วงค่ำวันศุกร์(20ต.ค.) จุดแรกเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายถล่มมัสยิดชีอะห์ในกรุงคาบูล สังหารอย่างน้อย 30 ศพ ขณะที่มัสยิดอีกแห่งทางภาคกลางของประเทศ ถูกถล่มด้วยระเบิด ตายอย่างต่ำ 20 ศพ
เหตุระเบิดในกรุงคาบูล นับเป็นระลอกล่าสุดของการโจมตีรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อยชีอะห์ของประเทศ โดยเหตุโจมตีเกิดขึ้นที่มัสยิดอิหม่ามซามาน ในเขต Dasht-e-Barchi ทางตะวันตกของเมืองหลวง ระหว่างที่พวกนักบุญชีอะห์กำลังรวมตัวกันเมื่อสวดมนต์เย็น
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงรายหนึ่งยอมรับว่ายังไม่ทราบจำนวนเหยื่อที่แน่ชัด แต่เผยว่ากองกำลังด้านความมั่นคงซึ่งอยู่ ณ จุดเกิดเหตุ สามารถเก็บกู้ร่างไร้วิญญาณได้อย่างน้อย 30 ศพ
จากข้อมูลของสหประชาชาติที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าพลเมืองชีอะห์ของอัฟกานิสถานประสบกับความสูญเสียอย่างเลวร้ายในปีนี้ โดยมีชาวชีอะห์เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 84 คนและบาดเจ็บ 194 คน ในเหตุโจมตีมัสยิดต่างๆและพิธีทางศาสนาของพวกเขา
ทั้งนี้มีรายงานว่าได้เกิดเหตุโจมตีมัสยิดอีกแห่งในเมืองกอร์ ทางภาคกลางของประเทศ ในวันศุกร์(20ต.ค.) ในเวลาไล่เลี่ยวกัน โดย อิกบาล เนซามี โฆษกตำรวจจังหวัดกอร์ บอกว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย ในเหตุระเบิดที่เชื่อว่ามีเป้าหมายที่ผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่ง
ถ้อยแถลงจาก อัตตา โมฮัมหมัด นูร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบัลข์ แกนนำพรรคจามิอัด ระบุว่าเป้าหมายของการโจมตีคือนักการเมืองท้องถิ่นชั้นนำคนหนึ่งของพรรคจามิอัดในเมืองกอร์ แต่มันคร่าชีวิตนักแสวงบุญมากถึง 30 คน
อนึ่งเบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อปฏิบัติการโจมตีทั้ง 2 เหตุการณ์