เอเจนซีส์ - เกาหลีใต้และอเมริกาได้เริ่มการซ้อมรบร่วมทางทะเลในวันจันทร์ (16 ต.ค.) ที่บริเวณคาบสมุทรเกาหลี โดยจะใช้เวลานานนับสัปดาห์สำหรับการซ้อมรบครั้งนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดจากโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า เรือรบประมาณ 40 ลำจากทั้งสองประเทศ ซึ่งรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ “ยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน” ได้เข้ามาร่วมซ้อมรบในครั้งนี้ ที่บริเวณชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี ระหว่างวันที่ 16-20 ตุลาคม
เกาหลีเหนือได้เรียกการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และอเมริกาว่าเป็น “การฝึกซ้อมเพื่อทำสงคราม”
เมื่อวันอาทิตย์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แนะนำเขาให้ใช้ความพยายามทางการทูตต่อไปเพื่อลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ ด้วยการพูดว่า “ความพยายามทางการทูตเหล่านั้นจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะทิ้งระเบิดลูกแรก”
ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากการทดสอบอาวุธหลายครั้งของเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมถึงการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 3 กันยายน กับขีปนาวุธที่ถูกยิงลอยข้ามญี่ปุ่นอีก 2 ลูก แถมยังมีสงครามน้ำลายที่ด่ากันเละเทะระหว่างโสมแดงกับอเมริกา
ส.ส.รัสเซียรายหนึ่งที่เพิ่งกลับมาจากไปเยือนเปียงยางเมื่อต้นเดือนนี้ ระบุว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถยิงไปได้ไกลถึงชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองเกาหลีใต้และนักวิเคราะห์พากันบอกว่า เกาหลีเหนืออาจทำการยั่วยุครั้งใหม่ในเวลาเดียวกับที่มีการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพุธนี้
พล.อ.เทอร์เรนซ์ เจ. โอชอเนสซี ผู้บัญชาการกองทัพอากาศแปซิฟิกของสหรัฐฯ พูดในการประชุมของกองทัพที่กรุงโซลว่า โครงการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ถือเป็นภัยคุกคามต่อพวกเราทุกคนอย่างแท้จริง และอเมริกาจะยังคงให้การคุ้มครองแก่ชาติพันธมิตร