เดลีเมล์ - สนามบินดูไบเตรียมเปิดตัวระบบตรวจเช็กด้านความปลอดภัยใหม่ในเร็วๆ นี้ โดยที่พวกผู้โดยสารจะถูกสแกนหน้าในระหว่างที่เดินผ่านอุโมงค์น้ำเสมือนจริง เป้าหมายคือหวังประหยัดเวลาในการคัดกรองนักเดินทางและลดการใช้ทรัพยากรมนุษย์
อุโมงค์ดังกล่าวซึ่งจะนำมาใช้ที่สนามบินนานาชาติดูไบในปีหน้า จะซ่อนกล้องเอาไว้ 80 ตัว เพื่อรวบรวมข้อมูลทางชีวภาพตอนที่บุคคลหนึ่งๆ เดินผ่าน
ทั้งนี้ อุโมงค์ดังกล่าวจะแสดงภาพของฝูงปลากำลังแหวกว่าย โดยมีเจตนาดึงดูดสายตาของเหล่านักเดินทาง เพื่อเปิดทางให้กล้องที่ซ่อนเอาไว้สามารถสแกนใบหน้าและม่านตาของพวกผู้โดยสารแต่ละคนได้ทุกมุมมอง
“ปลามีลักษณะของความบันเทิงและเป็นบางอย่างที่ใหม่สำหรับนักเดินทาง แต่ที่สุดแล้วก็คือมันดึงดูดสายตาของนักเดินทางให้หันไปทั่วทุกมุมของอุโมงค์ เพื่อกล้องจะได้พิมพ์ใบหน้าของเขาหรือเธอคนนั้น” พล.อ.ต.โอบาอิด อล-ฮาเมรี รองผู้อำนวยการกิจการต่างประเทศดูไบบอกกับสื่อมวลชนท้องถิ่น
เครื่องสแกนแบบเดินผ่านนี้จะถูกนำมาทดแทนเจ้าหน้าที่ศุลกากรและตรวจรักษาความปลอดภัยชายแดนดั้งเดิม สำหรับเครื่องบินบางเที่ยว ณ อาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติดูไบในปีหน้า
พวกผู้โดยสารจะเข้าสู่ขั้นตอนรวบรวมข้อมูลชีวภาพ ในเส้นทางพิเศษระหว่างที่มุ่งหน้าสู่อาคารผู้โดยสารหรือตอนเข้าซุ้มสแกนใบหน้า ทั้งนี้ หลังจากเช็กอินและได้รับบอร์ดิ้งพาสแล้ว พวกผู้โดยสารต้องเดินผ่านอุโมงค์น้ำเสมือนจริง ซึ่งจะถูกนำเข้ามาทดแทนจุดคัดกรองด้านความปลอดภัย
หากผลสแกนทางชีวภาพตรงกับข้อมูล ผู้โดยสารรายนั้นก็จะได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องต่อไป ขณะที่อุโมงค์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดระยะเวลาและพลังงานมนุษย์ตามสนามบินต่างๆ เนื่องจากผู้โดยสารแต่ละคนใช้เวลาเดินผ่านแค่ 15 วินาทีเท่านั้น
อุโมงค์น้ำเสมือนจริงน่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อสนามบินนานาชาติดูไบ เนื่องจากท่าอากาศยานแห่งนี้ครองอันดับ 1 สนามบินที่มีผู้โดยสารระหว่างประเทศใช้บริการมากที่สุดในโลกเมื่อปี 2016 โดยต้องรับมือกับนักเดินทางมากกว่า 83.6 ล้านคน
“เราทำงานกันมานานกว่า 4 ปี เพื่อเปลี่ยนผ่านขั้นตอนจากเคาน์เตอร์ดั้งเดิม และในอนาคตเราไม่จำเป็นต้องมีเคาน์เตอร์อีกต่อไป” พล.อ.ต.โอบาอิด อล-ฮาเมรีกล่าว และว่า “แน่นอนว่ามันจะยังมีการตรวจสอบ แต่มันไม่จำเป็นต้องทำผ่านเคาน์เตอร์”