เอเอฟพี - บ็อบ คอร์เกอร์ วุฒิสมาชิกอาวุโสจากพรรครีพับลิกันกล่าวเตือนวานนี้ (8 ต.ค.) ว่าคำพูดข่มขู่ชาติอื่นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้อเมริกาก้าวไปสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” ซึ่งนับเป็นครั้งล่าสุดที่ ส.ว.ผู้นี้ออกมาเปิดสงครามน้ำลายกับผู้นำสหรัฐฯ ผ่านสื่อและโซเชียลมีเดีย
คอร์เกอร์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ วิจารณ์ ทรัมป์ วัย 71 ปี ว่าบริหารประเทศเหมือน “ถ่ายรายการเรียลิตีโชว์” ซึ่งถือเป็นการตำหนิประธานาธิบดีจากพรรคตัวเองด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบไม่น้อย
ความไม่ลงรอยของทั้งคู่ยังกลายเป็นอุปสรรคต่อการผลักดันร่างกฎหมายสำคัญๆ ซึ่ง ทรัมป์ จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากคอร์เกอร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านหรือการปฏิรูปภาษี
“เขาทำให้ผมรู้สึกกังวลมาก” คอร์เกอร์ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส “ไม่ว่าใครที่ห่วงใยประเทศชาติก็คงรู้สึกกังวลในตัวเขาทั้งนั้น”
คอร์เกอร์ นับเป็นคนของรีพับลิกันที่กล้าวิจารณ์ประธานาธิบดีอย่างถึงพริกถึงขิงที่สุดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เขาบอกว่าถ้าไม่ได้บรรดานายพลที่ใกล้ชิด ทรัมป์ คอยประคับประคองเอาไว้ ทำเนียบขาวคงจะ “ยุ่งเหยิง” ยิ่งกว่านี้
ทรัมป์ เลือกที่จะไม่ตอบโต้เสียงวิจารณ์ดังกล่าว แต่หันไปเล่นงานเรื่องที่ คอร์เกอร์ จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2018 และยังกล่าวหา ส.ว.ผู้นี้ว่าจะต้องรับผิดชอบข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านซึ่ง ทรัมป์ เห็นว่าเป็น “ดีลสุดห่วย”
“ส.ว.บ็อบ คอร์เกอร์ เคยขอร้องให้ผมช่วยประกาศรับรองเขาลงสมัครรับเลือกตั้งที่รัฐเทนเนสซีอีกครั้ง พอผมบอกว่า ไม่ เขาก็เลยถอนตัว (เขาบอกว่าสมัครไปก็ไม่ชนะถ้าไม่มีผมช่วย)” ทรัมป์ กล่าวผ่านทวิตเตอร์ “เขายังขอตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศจากผมด้วย แต่ผมตอบว่า ไม่ล่ะ ขอบคุณ และเขายังจะต้องรับผิดชอบกับข้อตกลงอิหร่านที่แย่ที่สุด!”
ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวหา คอร์เกอร์ ว่าเป็น “เสียงแง่ลบ” ที่จะ “ขัดขวางวาระที่ยิ่งใหญ่” ของรัฐบาล และเย้ยหยันเขาว่า “ไม่มีความกล้าพอที่จะลงเลือกตั้ง”
คอร์เกอร์ ออกมาแย้งคำพูดทรัมป์ โดยยืนยันกับนิวยอร์กไทม์ว่า ทรัมป์ต่างหากที่เป็นฝ่ายขอร้องให้ตนลงสมัคร ส.ว.อีกสมัย และยังให้สัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะหนุนหลังเต็มที่
“ผมไม่ทราบว่าทำไมประธานาธิบดีถึงทวีตในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง” เขากล่าว
ฉากดรามาเริ่มขึ้นอีกครั้งในเช้าวันอาทิตย์ (8) เมื่อ ทรัมป์ ทวีตข้อความดูถูก คอร์เกอร์ ว่า “ใจเสาะ” จนไม่กล้าลงสมัครรับเลือกตั้งซ้ำ ทำให้ ส.ว.คนดังตอกกลับว่าทำเนียบขาวในยุคทรัมป์ไม่ต่างอะไรจาก “สถานรับดูแลผู้สูงอายุ” (adult daycare center)
“ช่างน่าอับอายที่ทำเนียบขาวกลายเป็นสถานรับดูแลผู้สูงอายุไปแล้ว และสงสัยว่าเช้านี้เจ้าหน้าที่คงไม่มาทำงาน” คอร์เกอร์ กล่าวในเชิงเหน็บแนมพวกผู้ช่วยทรัมป์
อีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ทรัมป์ ก็ได้ออนไลน์อีกครั้ง และตำหนิ คอร์เกอร์ ว่าไม่เคยสร้างผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
“บ็อบ คอร์เกอร์ หยิบยื่นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านให้เรา และนั่นคือสิ่งที่เขาทำ เราต้องการกฎหมายสาธารณสุข เราต้องการปฏิรูปภาษี เราต้องการคนที่จะเข้ามาทำงานให้สำเร็จ!” ทรัมป์ กล่าว
การปะทะคารมระหว่าง ทรัมป์ กับ คอร์เกอร์ เริ่มถึงจุดเดือดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลัง ทรัมป์ ออกมาพูดว่าความพยายามของรัฐมนตรีต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ที่จะเจรจารอมชอมกับเกาหลีเหนือนั้น “เสียเวลาเปล่า” คอร์เกอร์ ซึ่งไม่พอใจคำพูดของ ทรัมป์ เอามากๆ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันพุธ (4) ว่า ทิลเลอร์สัน ไม่ได้รับการสนับสนุนที่จำเป็นจากประธานาธิบดี
“ผมคิดว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ ทิลเลอร์สัน, รัฐมนตรีกลาโหม เจมส์ แมตทิส และประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว จอห์น เคลลี เป็นบุคคลที่ช่วยไม่ให้ประเทศของเราดำดิ่งลงสู่ความวุ่นวาย และผมขอสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่” คอร์เกอร์ ระบุ
แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อ ทรัมป์ แต่ก็เข้าใจได้ชัดเจนว่าเขากำลังตำหนิประธานาธิบดีโดยตรง
คอร์เกอร์ เคยประกาศสนับสนุน ทรัมป์ ตอนหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีแล้ว และถึงขั้นถูกคาดหมายว่าจะลงสมัครรองประธานาธิบดีคู่กับทรัมป์ ก่อนที่จะถูกจับตาเป็นตัวเต็งรัฐมนตรีต่างประเทศในเวลาต่อมา ทว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มแย่ลงในเดือน ส.ค.ปีนี้หลัง ทรัมป์ ไม่ยอมประณามม็อบชาตินิยมผิวขาวที่ก่อเหตุนองเลือดในเมืองชาร์ล็อตต์สวิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย จนทำให้เขาถูกวิจารณ์อย่างหนัก
คอร์เกอร์ ชี้ว่า ทรัมป์ ยังไม่ได้แสดงเสถียรภาพและศักยภาพที่คนเป็นประธานาธิบดีควรจะมี