xs
xsm
sm
md
lg

เร่งสอบเหตุซูเปอร์จัมโบ้ “แอร์ฟรานซ์” เครื่องยนต์พังกลางอากาศ ยังดีลงจอดฉุกเฉินสำเร็จ กว่า 500 ชีวิตปลอดภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ภาพจากบัญชีทวิตเตอร์ @Bdaddy1391 ถ่ายในวันเสาร์ (30 กย.) ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นเครื่องยนต์ซึ่งได้รับความเสียหายหนักของเครื่องบินโดยสาร แอร์บัส เอ 380 ซูเปอร์จัมโบ ของสายการบินแอร์ฟรานซ์  โดยขณะเกิดเหตุเครื่องบินลำนี้กำลังนำผู้โดยสารและลูกเรือรวมกว่า 500 คนบินอยู่เหนือแอตแลนติก แต่นักบินสามารถนำเครื่องบินไปลงจอดฉุกฉินที่แคนาดาได้อย่างปลอดภัย </i>
บีบีซีนิวส์/เอเอฟพี - เครื่องบินโดยสารแอร์บัส เอ 380 ซูเปอร์จัมโบ้ ของสายการบิน “แอร์ฟรานซ์” ที่กำลังนำผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 500 คนเดินทางจากปารีสมุ่งหน้าสู่ลอสแองเจลิสในเที่ยวบิน AF66 ต้องหันหัวเปลี่ยนทิศทางไปลงจอดฉุกเฉินที่แคนาดาเมื่อวันเสาร์ (30 ก.ย.) ภายหลังเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งในจำนวน 4 เครื่องเกิดการระเบิดได้รับความเสียหายหนักขณะบินอยู่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก

แอร์ฟรานซ์แจ้งว่า เครื่องบินขนาดยักษ์ที่ห้องโดยสารแบ่งออกเป็น 2 ชั้นลำนี้ บรรทุกผู้โดยสาร 496 คนและลูกเรือ 24 คน โดยบินออกจากต้นทางในกรุงปารีสได้หลายชั่วโมงแล้วเมื่อเกิดการระเบิดขึ้นมา ขณะนั้นกำลังอยู่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ทางด้านตะวันตกของเกาะกรีนแลนด์

ผู้โดยสารหลายคนเล่าว่า ได้ยินเสียงปังดังสนั่นจากนั้นตัวเครื่องบินก็สั่นอย่างรุนแรง โดยจากคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่มีผู้โพสต์บนสื่อสังคม แสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์ตัวนอกทางกราบขวาของ เอ 380 ลำนี้ได้รับความเสียหายหนัก

โฆษกของสายการบินแอร์ฟรานแถลงในวันอาทิตย์ (1 ต.ค.) ว่า คณะเจ้าหน้าที่จากหน่วยสืบสวนเครื่องบินตกบีอีเอ ของฝรั่งเศส, ทีมวิศวกรจากแอร์บัส และจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์ซึ่งตั้งฐานอยู่ในสหรัฐฯ กำลังเดินทางมุ่งไปยังสนามบินทหาร กูสเบย์ ในภาคตะวันออกของแคนาดาซึ่งเครื่องบินลำนี้จอดอยู่

ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุร้ายครั้งนี้ แต่บรรดาผู้โดยสารยังคงต้องอยู่บนเครื่องบินอีกหลายชั่วโมงหลังจากลงจอดตอนเวลา 15.42 น.ตามเวลากรีนิช (ตรงกับ 22.42 น.เวลาเมืองไทย)

เดวิด เรห์เมอร์ อดีตช่างเครื่องบิน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้โดยสารของเที่ยวบินนี้ ได้บอกกับบีบีซีว่า จากการสังเกตของเขา เหตุร้ายนี้น่าจะเป็นเพราะใบพัดของเครื่องยนต์ล้มเหลว

เขาบอกว่ามีเสียงดังเกิดขึ้น แล้วตัวเครื่องบินก็มีการเคลื่อนไหวผิดปกติกะทันหัน สร้างความตื่นตระหนกให้แก่บรรดาผู้โดยสาร

“พอได้ยินเสียงบึ้ม ตัวเครื่องก็สั่น แค่นั้นก็ทำให้ผมคิดว่าเครื่องยนต์พังไปแล้ว” เขากล่าว และบอกว่าไม่กี่อึดใจต่อมาเขาก็คิดว่า “เรากำลังจะตก”

ความกังวลของเขาเกี่ยวกับเรื่องปีกของเครื่องบินได้จางหายไป เมื่อเครื่องบินสามารถทรงตัวได้อย่างมีเสถียรภาพใน 30 วินาที เขายังบอกด้วยว่า นักบินได้ปิดเครื่องยนต์ที่พังอย่างรวดเร็ว

เครื่องบินยังคงบินต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์ 3 ตัว จนไปถึงสนามบินของกองทัพอากาศแคนาดาที่กูสเบย์ ในรัฐนิวฟันด์แลนด์และลาบราดอร์

เรห์เมอร์บอกว่า ที่ระดับความสูงขนาดนั้น การถูกนกชนไม่น่าจะเป็นสาเหตุของเหตุร้ายครั้งนี้ และจากประสบการณ์ของเขาทำให้เขาเชื่อว่าใบพัดบริเวณด้านหน้าเครื่องยนต์น่าจะพัง แต่สาเหตุที่แท้จริงนั้นยังไม่ชัดเจน

บรรดาคลิปวิดีโอและรูปภาพที่ถ่ายโดยผู้โดยสารแสดงให้เห็นพื้นผิวปีกบริเวณที่ปิดคลุมเครื่องยนต์เอาไว้ได้รับความเสียหาย รวมถึงมีความเสียหายที่บริเวณพื้นผิวของส่วนปีกด้วย

ผู้โดยสารยังคงต้องติดค้างอยู่บนเครื่องบินขณะอยู่ในแคนาดา เนื่องจากทางสนามบินไม่มีอุปกรณ์ที่จะใช้กับเครื่องบิน เอ380

แอร์ฟรานซ์แถลงว่า คาดหมายว่าผู้โดยสารทุกคนจะสามารถเดินทางถึงลอสแองเจลิสที่เป็นจุดหมายปลายทางได้ในตอนเช้าวันอาทิตย์ (1) โดยที่สายการบินได้ส่งเครื่องบินจำนวน 2 ลำไปรับที่กูสเบย์แล้ว

ในคำแถลงของสายการบิน “แอร์ฟรานซ์” มีการยืนยันว่า เครื่องยนต์ตัวหนึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ลูกเรือสามารถรับมือกับสถานการณ์ร้ายแรงนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ผู้โดยสารอีกรายได้บอกกับบีบีซีว่า ลูกเรือทำงานกันอย่างหนักและทำหน้าที่กันเป็นเวลานาน ทั้งยังมีการนำอาหารมาให้ แถมกัปตันบนเครื่องบินยังมาพูดคุยกับผู้โดยสารด้วย

แอร์บัส เอ 380 เป็นเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในเวลานี้ ทางแอร์ฟรานซ์มีเครื่องบินรุ่นนี้ใช้งานอยู่ 10 ลำ โดยใช้เครื่องยนต์เวอร์ชั่นที่ผลิตโดย เจเนอรัล อิเล็กทริก กับ แพรตต์ แอนด์ วิตนีย์ ในสหรัฐฯ

เมื่อปี 2010 เอ 380 ของสายการบินแควนตัส ของออสเตรเลียลำหนึ่ง ต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินที่สิงคโปร์ เมื่อเครื่องยนต์ที่ผลิตโดยบริษัท โรลส์-รอยซ์ มีเครื่องหนึ่งเกิดขัดข้อง ทำให้สายการบินต้องสั่งห้ามฝูงบินซูเปอร์จัมโบ้ของตนทั้งหมดขึ้นบินเป็นเวลาหลายสัปดาห์

สำหรับยอดขาย เอ 380 นั้นอยู่ในอาการไม่ค่อยไหลลื่นมาระยะหนึ่งแล้ว โดยแอร์บัสเพิ่งแถลงว่าจะลดการผลิตในปี 2019 ให้เหลือเพียง 8 ลำ เปรียบเทียบกับเมื่อปี 2015 ซึ่งบริษัทผลิตออกมา 27 ลำ

อย่างไรก็ตาม ทอม เอนเดอร์ส ซีอีโอของแอร์บัส เมื่อเร็วๆ นี้ยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจในอนาคตของเครื่องบินรุ่นนี้
<i>สภาพเครื่องยนต์ที่พังเสียหายของเครื่องบินโดยสาร แอร์บัส เอ380 สายการบินแอร์ฟรานซ์ ขณะลงจอดที่สนามบินทหาร ในเมืองแฮปปี้ แวลลีย์ - กูส เบย์  ประเทศแคนาดา เมื่อวันอาทิตย์ (30 ก.ย.)  ภาพนี้ถ่ายจากคลิปวิดีโอซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์ได้รับจากสื่อโซเชียลมีเดีย </i>
กำลังโหลดความคิดเห็น