เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - เมื่อวานนี้(27 ก.ย)กองกำลังสหรัฐฯในอัฟกานิสถานแถลงยอมรับ ทำให้เกิดความสูญเสียในส่วนของพลเรือน หลังมิสไซล์ลูกหนึ่งเกิดขัดข้อง ในปฎิบัติการเอาคืนตามคำขอของอัฟกานิสถาน เพื่อยุติก่อการร้าย ใช้ทั้งปืนใหญ่ จรวด และมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีสนามบินคาบูลร่วม 6 ช.ม เกิดขึ้นระหว่างผู้นำกลาโหมสหรัฐฯ เยือนอัฟกานิสถาน เชื่อตกเป็นเป้าลอบสงหาร หลังตอลิบานแถลงยืนยัน
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวานนี้(27 ก.ย)ว่า กลุ่มติดอาวุธเปิดการโจมตีอุกอาจที่ท่าอากาศยานนานาชาติคาบูลในวันพุธ(27 ก.ย) ซึ่งมีเป้าหมายเจาะจงต้องการสังหาร “เจมส์ แมททิส” รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งเดินทางแบบเป็นความลับมายังอัฟกานิสถานในวันเดียวกันนั้น
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า การโจมตีเกิดขึ้นจากทั้งปืนใหญ่และระเบิดฆ่าตัวตายที่สวมเสื้อกั๊กติดระเบิด และส่งผลทำให้กองกลังสหรัฐฯต้องตอบโต้โดยการโจมตีทางอากาศ จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดความสูญเสียกับพลเรือน เจ้าหน้าที่กล่าว
ทั้งนี้อ้างอิงจากกองกำลังสหรัฐฯในอัฟกานิสถาน พบว่ากลุ่มก่อการร้าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ในการลงมือ” และได้ทำการยิงระเบิดที่มีสมรรถนะสูง ซึ่งรวมไปถึงปืนใหญ่ออกมา โดยกลุ่มก่อการร้ายมีเป้าหมายไปที่พื้นที่บริเวณสนามบิน รายงานจากแถลงการณ์ของปฎิบัติการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่ง( the Resolute Support mission) ซึ่งเป็นชื่อปฎิบัติการของสหรัฐฯในอัฟกานิสถาน
แต่อย่างไรก็ตาม วอชิงตันโพสต์ชี้ว่า ในแถลงการณ์ไม่ได้กล่าวถึงในรายละเอียด หรือความเสียหายของพลเรือนที่เกิดขึ้น
แถลงการณ์อ้างเพียงว่า กองกำลังสหรัฐฯได้ออกปฎิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนกองกำลังพิเศษอัฟกานิสถาน ที่ได้ทำการร้องขอ เพื่อทำให้การโจมตีโดยกลุ่มก่อการร้ายนั้นยุติลง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า มิสไซล์ลูกหนึ่งของสหรัฐฯ “เกิดทำงานผิดพลาด” ส่งผลทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น
ซึ่งจากการรายงานของเอพีวันนี้(28 ก.ย) ระบุว่า เป็นการโจมตีที่มุ่งไปยังเป้าหมาย 2 จุด คือ "สนามบิน" และ "เครื่องบินของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ" ซึ่งหมายความถึงแมททิส สอดคล้องกับการให้ข้อมูลของผู้บัญชาการรบตอลิบานก่อนหน้า
วอชิงตันโพสต์ชี้ว่า การโจมตีสนามบินคาบูลในวันพุธ(27 ก.ย) เป็นการโจมตีที่กินระยะเวลายาวนานกว่า 6 ช.ม โดย CNN รายงานเพิ่มเติมว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯยืนยันว่า มีกระสุนตกลงมายังท่าอากาศยานคาบูลไม่ต่ำกว่า 42 ลูก ซึ่งจากทั้งหมดมี 29 ลูกเป็นจรวดอาร์พีจี แต่ทางแหล่งข่าวสหรัฐฯยังไม่ยืนยัน กระสุนประเภทอื่น
ในขณะที่วอชิงตันโพสต์ อ้างอิงจากแหล่งข่าวตำรวจอัฟกันชี้ว่า การโจมตีเกิดขึ้นจากจรวดอย่างน้อย 12 ลูกถูกยิงออกมาจากสถานที่ไม่เปิดเผย 2 แห่ง ในขณะที่แหล่งข่าวความมั่นคงอีกรายให้ข้อมูลว่า พบมีจรวดไม่ต่ำกว่า 30ลูกยิงเข้ามายังท่าอากาศยาน และพื้นที่บริเวณโดยรอบ
โดยในวันพุธ(27 ก.ย)ทั้งกลุ่มตอลิบานและกลุ่ม IS ต่างออกมากล่าวแสดงความรับผิดชอบ โดยในส่วนของตอลิบาน แหล่งข่าวผู้บัญชาการรบตอลิบาน 2 คน ได้ออกมายืนยันกับสื่อ NBC NEWS ของอเมริกาว่า “แหล่งข่าวภายในกองกำลังความมั่นคงอัฟกันของพวกเขา และที่ท่าอากาศยานนานาชาติคาบูลได้ให้ข้อมูลถึงกำหนดการเดินทางของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ”
“ทางเรายิงจรวดมา 6 ลูกด้วยเป้าหมายต้องการโจมตีเครื่องบินของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และเครื่องของเจ้าหน้าที่นาโต” หนึ่งในผู้บัญชาการรบตอบลิบานกล่าว และเสริมว่า “เราได้รับการบอกเล่าโดยสายข่าวว่า ได้มีการสูญเสียบางส่วนเกิดขึ้นกับฐานของพวกเขา แต่เราไม่แน่ใจไปถึงเจมส์ แมททิส”
ด้านโฆษกกลุ่มตอลิบาน ซาบิฮูลลาห์ มูจาฮิด(Zabihullah Mujahid) ออกมายืนยันถึงความรับผิดชอบในเหตุการณ์นี้ โดยชี้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธตอบลิบานจริง และกล่าวว่า เป้าหมายการโจมตีครั้งนี้คือ “เจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯอื่นๆ”
ซึ่งวอชิงตันโพสต์ยืนยันว่า ***กลุ่มติดอาวุธเริ่มลงมือในระหว่างที่ แมททิส และเลขาธิการองค์การนาโต เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก(Jens Stoltenberg)กำลังนั่งหารืออยู่กับผู้นำอัฟากานิสถาน ประธานาธิบดี อัชราฟ กานี ในที่ปลอดภัย ห่างออกไปหลายไมล์จากท่าอากาศยานแห่งนี้ ***
ทั้งนี้พบว่าท่าอากาศยานนานาชาติคาบูลแห่งนี้ ถูกใช้ทั้งกองกำลังสหรัฐฯ และกองกำลังนาโต ซึ่งในเบื้องต้นเวลานี้ ยังไม่มีการเปิดเผยว่า รันเวย์หรือเครื่องบินได้รับความเสียหายหรือไม่ แต่มีรายงานว่า เที่ยวบินทุกเที่ยวถูกสั่งยกเลิกหลังจากนั้น
ว็อกซ์รายงานเพิ่มเติมว่า และหลังจากที่การยิงได้สิ้นสุดลง กลุ่มก่อการร้าย 3 คนได้เดินทางเข้าไปยังบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ทางด้านหลังของสนามบิน ซึ่งทางตำรวจคาบูลได้ออกปฎิบัติการนานถึง 6 ช.ม จึงจะสามารถเข้าไปยังบ้านหลังนี้ได้สำเร็จ และสังหารคนทั้งหมด
ทั้งนี้ก่อนหน้า ตอลิบานแถลงอ้างรับผิดชอบเหตุโจมตีท่าอากาศยานกรุงคาบูล โดยยืนยันว่าทางกลุ่มได้ยิงจรวดเข้ามาถึง 6 ลูก และได้รับรายงานว่า สหรัฐฯได้รับความเสียหาย
ในขณะที่ทางกลุ่มก่อการร้าย IS ออกแถลงการณ์ผ่านสื่อของตนเอง ยืนยันความรับผิดชอบเช่นกัน โดยชี้ว่า ใช้จรวดรุ่น SPG-9 และปืนใหญ่โจมตี
