xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันขึ้น-ดาวโจนส์ปิดบวกหลังเฟดไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนเมื่อวันพุธ (20 ก.ย.) จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน หลังเฟดยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 93 เซ็นต์ ปิดที่ 50.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (20 ก.ย.) พบคลังน้ำมันดิบสำรองภายในประเทศ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 กันยายน เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากความเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่ขู่ยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์กับรัฐบาลอิหร่าน ชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ต้นๆ ของโอเปก ซึ่งก่อความกังวลทางอุปทาน

ขณะเดียวกัน พวกนักลงทุนยังจับตาที่ไปการประชุมระหว่างเหล่าผู้ผลิตหลัก โดยโอเปกและประเทศผู้ผลิตอื่นๆ เตรียมหารือกันที่กรุงเวียนนาในวันศุกร์ (22 ก.ย.) เพื่อทบทวนว่ามีการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังผลิตมากน้อยแค่ไหน ขณะที่ข้อตกลงดังกล่าวมีกำหนดหมดอายุในเดือนมีนาคมปี 2018

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันพุธ (20 ก.ย.) โดยดาวโจนส์ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล 7 วันติด จากแรงหนุนกลุ่มธนาคาร หลังเฟดไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 41.79 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 22,412.59 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.59 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,508.24 จุด แนสแดค ลดลง 5.28 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,456.04 จุด

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมในวันพุธ (20 ก.ย.) และแถลงจะค่อยๆ ยุติโปรแกรมเข้าซื้อพันธบัตรที่ออกมาในช่วงวิกฤต ท่ามกลางสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังลงเท้าอย่างมั่นคง ความเคลื่อนไหวเป็นไปตามที่คาดหมายไว้

อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ เฟด ยังมีแผนปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม ช่วยดันหุ้นกลุ่มธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น เจพีมอร์แกน เชส, แบงก์ออฟอเมริกาและสถาบันการเงินอื่นๆ

ถ้อยแถลงของเฟดซึ่งมีขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน 2 วัน ได้เน้นย้ำด้วยว่าความเสียหายที่มีต้นตอจากเฮอริเคนฮาร์วีย์, เออร์มา และมาเรีย สร้างความเดือดร้อนอย่างรุนแรงแก่ชุมชนต่างๆ

กระนั้นทางธนาคารกลางแห่งนี้บอกว่าในส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจของพายุ ดูเหมือนว่าจะรู้สึกได้แค่ในระยะสั้นเท่านั้น โดยเฟดอ้างประสบการณ์ในอดีตที่แสดงให้เห็นว่าภัยพิบัติจากพายุไม่เคยก่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงต่อเส้นทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
กำลังโหลดความคิดเห็น