รอยเตอร์ - รัสเซียรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อความเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านและแสดงความสงสัยว่าอาจเป็นฝ่ายวอชิงตันเองที่ละเมิดสนธิสัญญาควบคุมอาวุธ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศพญาหมีกล่าว
ความเห็นของลาฟรอฟ เกิดขึ้นในระหว่างที่เขาให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวรัสเซีย ณ ที่ประชุมสหประชาชาติในนิวยอร์ก และเปิดเผยโดยกระทรวงการต่างประเทศมอสโกในวันพุธ (20 ก.ย.) เป็นตัวอย่างของความไม่ลงรอยกันระหว่างมอสโกและวอชิงตันในประเด็นต่างๆ นานา และบ่งชี้ว่าความพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติคงต้องเผชิญกับงานหนัก
ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันอังคาร (19 ก.ย.) ว่าข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่อิหร่านทำไว้กับเหล่าชาติมหาอำนาจ ในการระงับโครงการนิวเคลียร์แลกกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องน่าขายหน้าของสหรัฐฯ และวอชิงตันอาจไม่รับรองข้อตกลงดังกล่าว เมื่อครั้งที่เส้นตายมาถึงในช่วงกลางเดือนตุลาคม
รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติที่ลงนามในข้อตกลง บอกว่ามอสโกไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับท่าทีดังกล่าวของสหรัฐฯ “มันน่ากังวลใหญ่หลวง” เขากล่าว “เราจะปกป้องข้อตกลงนี้ มันเป็นข้อตกลงที่เป็นเอกฉันท์ ซึ่งช่วยผ่อนคลายประชาคมนานาชาติทั้งมวลและเพิ่มความเข้มแข็งอย่างแท้จริง ทั้งแก่ความมั่นคงระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค”
ในคำปราศรัยเดียวกัน ทรัมป์ยังได้ขู่จะทำลายล้างเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก หากจำเป็นต้องปกป้องตัวเองและพันธมิตร ซึ่งได้รับเสียงตอบรับในทางลบจากรัสเซียเช่นกัน ขณะที่มอสโกมีชายแดนติดกับเกาหลีเหนือและเชื่อว่าการเจรจาและการทูตเป็นหนทางเดียวที่จะคลี่คลายวิกฤตโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม ลาฟรอฟ ละเว้นการวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ อย่างรุนแรง โดยเพียงแต่ตั้งข้อสังสัยว่ามีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะละเมิดสนธิสัญญาควบคุมอาวุธฉบับประวัติศาสตร์เมื่อปี 1987 ที่ห้ามรัสเซียและอเมริกา ครอบครอง ผลิตหรือทดสอบขีปนาวุธพิสัยปานกลางชนิดยิงจากพื้นดิน
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี เจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในรัฐบาลทรัมป์ กล่าวหารัสเซียว่าละเมิดสนธิสัญญาเดียวกัน แต่ทางมอสโกปฏิเสธ ขณะที่ในวันพุธ (20 ก.ย.) ลาฟรอฟ เน้นว่าดูเหมือนจะเป็นวอชิงตันที่เป็นฝ่ายละเมิดสนธิสัญญาดังกล่าวเสียเอง