รอยเตอร์ - รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศตั้งคณะกรรมการตอบสนองวิกฤตท่อส่งน้ำมันรั่ววันนี้ (20 ก.ย.) หลังปัญหาเชื้อเพลิงขาดแคลนส่งผลให้ต้องมีการยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและออกจากสนามบินออกแลนด์กว่า 100 เที่ยวในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะก่อความล่าช้าต่อเนื่องไปอีกหลายวัน
ทั้งนี้ คาดว่ารัฐบาลจะต้องใช้มาตรการปันส่วนน้ำมันต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ขณะที่พรรคแรงงานฝ่ายค้านฉวยโอกาสนี้โจมตีรัฐบาลพรรคเนชันแนลว่าล้มเหลวในการซ่อมบำรุงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ก่อนศึกเลือกตั้งทั่วไปจะเปิดฉากขึ้นในวันเสาร์นี้ (23 ก.ย.)
นักวิเคราะห์บางคนเตือนว่า วิกฤตเชื้อเพลิงคราวนี้อาจทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งหันไปเทคะแนนเลือกพรรคแรงงาน แต่ผลโพลล่าสุดซึ่งจัดทำในช่วงที่เกิดวิกฤตและเผยแพร่วันนี้ (20) ยังพบว่าพรรคเนชันแนลมีสัดส่วนคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น
“สำหรับคนที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคไหน หรือพวกที่ไม่ได้ติดตามการเมืองใกล้ชิดแต่เลือกโดยอาศัยข้อมูลในนาทีสุดท้าย ปัญหานี้อาจจะทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจจากรัฐบาล” ไบรซ์ เอ็ดเวิร์ดส์ จากสถาบัน Critical Politics ในกรุงเวลลิงตัน ระบุ
แม้จะยืนยันว่าท่อส่งน้ำมันที่เสียหายเป็นทรัพย์สินของเอกชน แต่รัฐบาลนิวซีแลนด์ก็ได้สั่งให้กองทัพนำรถบรรทุกขนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปป้อนที่สนามบินเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่รัฐงดเดินทางโดยเครื่องบินในช่วงนี้หากไม่มีความจำเป็น
ล่าสุด ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อรับมือวิกฤตดังกล่าวแล้วในวันนี้ (20) ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานของรัฐบาลและสภาเมืองโอกแลนด์, สายการบินแอร์นิวซีแลนด์ และบริษัทน้ำมันเอกชนหลายแห่ง
โฆษกสนามบินโอกแลนด์แถลงว่า ตั้งแต่วันอาทิตย์ (17) มีเที่ยวบินถูกยกเลิกทั้งหมด 110 เที่ยว ส่วนแอร์นิวซีแลนด์ระบุว่า เฉพาะวันนี้ (20) เพียงวันเดียวมีผู้โดยสารได้รับผลกระทบมากถึง 9,000 คน โดย 1 ใน 3 ถูกยกเลิกเที่ยวบิน
ด้านโฆษกสายการบินแควนตัสของออสเตรเลีย ระบุว่า บริษัทเตรียมส่งเครื่องบินโบอิ้ง 747 ขนเชื้อเพลิงประมาณ 50,000 กิโลกรัมจากนครซิดนีย์ไปยังออกแลนด์ในช่วงเย็นวันนี้ (20) เพื่อใช้เติมเครื่องบินของเจ็ตสตาร์และแควนตัสบางลำซึ่งจอดค้างอยู่ที่นั่น
นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าปัญหานี้ยังไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อเศรษฐกิจแดนกีวี แต่หากท่อส่งน้ำมันไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติภายในอีก 10 วันข้างหน้า ก็จะต้องประเมินสถานการณ์กันใหม่
อย่างไรก็ตาม ไมเคิล บาร์เน็ตต์ ผู้บริหารหอการค้าเมืองโอกแลนด์ ยอมรับกับสถานีวิทยุ เรดิโอ นิวซีแลนด์ ว่ารู้สึกเป็นห่วงภาพลักษณ์ของประเทศซึ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังเฟื่องฟู โดยมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามายังนิวซีแลนด์มากเป็นประวัติการณ์กว่า 3.4 ล้านคนต่อปี
“ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น การค้าเติบโตขึ้น แต่เรากลับไม่มีแผนรองรับที่ดี หรือจัดการโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถรองรับสิ่งเหล่านี้ได้”
