xs
xsm
sm
md
lg

“ไซปรัส” ถูกแฉเร่ขาย “พาสปอร์ตสัญชาติอียู” ให้ “ญาติปธน.อัสซาด” บวกนักการเมืองรัสเซีย -นายแบงก์ยูเครน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - ไซปรัสถูกเปิดโปง ใช้โครงการ “วีซ่าทอง” (golden visa) หาเงินเข้าประเทศร่วม 4 พันล้านยูโรนับตั้งแต่ปี 2013 โดยแลกเปลี่ยนกับการออกพาสปอร์ตที่สามารถเข้าออกเขตยูโรโซนเสรีตอบแทน พบมีจำนวนมากได้สัญชาติอียูผ่านโครงการนี้ รวมไปถึง เศรษฐีโอลิกาชรัสเซีย และบุคคลชนชั้นนำยูเครนที่มีชื่อคอร์รัปชัน และลูกพี่ลูกน้องประธานาธิบดีซีเรีย ที่ตกอยู่ในรายชื่อถูกสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรปี 2008 รวมอยู่ด้วย

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานพิเศษเมื่อวานนี้(17 ก.ย) ว่า เอกสารลับของไซปรัสที่ทางสื่ออังกฤษได้เห็นพบว่า รัฐบาลไซปรัสได้ออกหนังสือเดินทางของตัวเองให้กับบรรดาเศรษฐีพันล้านมาแล้วร่วม 400 คนแค่เฉพาะในปี 2016

โดยในการเปิดเผยชี้ว่า เจ้าหน้าที่ไซปรัสได้ถือโอกาสที่ประเทศตัวเองเป็นหนึ่งในสมาชิกสหภาพยุโรป ได้ออกโครงการวีซ่าทอง” (golden visa) ในการระดมทุนเข้าประเทศจากเม็ดเงินของบรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนัก สามารถหาเงินได้ไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านยูโร ซึ่งจากรายชื่อที่ทางเดอะการ์เดียนได้เห็น พบว่า มีกลุ่มเศรษฐีรัสเซีย บุคคลชั้นนำยูเครนที่มีความพัวพันกับการคอร์รัปชันถูกระบุว่า ได้สัญชาติไซปรัส

ซึ่งก่อนหน้าปี 2013 พบว่าทางไซปรัสได้ให้สัญชาติแก่ต่างด้าวเช่นกัน แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดโดยกระทรวงที่รับผิดชอบ ซึ่งมีความเข้มงวดมากกว่านี้

เดอะการ์เดียนชี้ว่า รายชื่อชาวต่างชาติที่ได้รับสัญชาติไซปรัสภายใต้โคงการวีซ่าทองนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ได้รับการเปิดเผย และยังแสดงให้เห็นว่า มีใครบ้างจากรัสเซียและยูเครนที่สามารถเดินทางเข้าและออก รวมไปถึงอาศัยในเขตยูโรโซนได้อย่างเสรี

และพบว่าหนึ่งในนั้นมีชื่อ อดีตสมาชิกรัฐสภาดูมารัสเซีย และบรรดากลุ่มผู้ก่อตั้งธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน และโอลิกาชยูเครน ซึ่งจากรายชื่อจำนวนหลายร้อยคน สื่ออังกฤษรายงาน เป็นการแสดงให้เห็นว่า ไซปรัสยอมให้สัญชาติกับบุคคลกลุ่มผู้ที่มีอิทธิพลทางการเมือง และนักธุรกิจระดับพันล้าน

ทั้งนี้ภายใต้โครงการวีซ่าทองไซปรัส ที่เริ่มต้นใช้ในปี 2013 พบว่า เป็นวีซ่าที่ได้สัญชาติผ่านการลงทุน โดยกำหนดตัวเลข 2 ล้านยูโรในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือลงทุนจำนวน 2.5 ล้านยูโรในบริษัทสัญชาติไซปรัส หรือซื้อพันธบัติรัฐบาลไซปรัส และพบว่าข้อแม้เดียวที่ทางผู้ขอต้องปฎิบัติตามคือ ต้องเดินทางเข้าไซปรัสอย่างน้อยปีละครั้งในตลอด 7 ปีติดต่อกัน แต่อย่างไรก็ตาม เดอะการ์เดียนรายงานว่า ไม่พบว่ารัฐบาลไซปรัสกำหนดให้บรรดาเศรษฐีพันล้านทั้งหลายต้องมีจำกัดด้านภาษา หรือ ระยะเวลาที่ต้องอาศัยในประเทศ

ทั้งนี้เป็นที่น่าตกใจเมื่อพบว่า ในบรรดารายชื่อผู้ได้สัญชาติไซปรัส ยังรวมไปถึง รามี มาคฮ์ลูฟ(Rami Makhlouf) ญาติของประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด

มาคฮ์ลูฟนั้นถูกสหรัฐฯประกาศอยู่ในกลุ่มบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรในปี 2008 แต่ไซปรัสได้ให้สัญชาติแก่เขาในปี 2010 ซึ่งส่งผลทำให้ญาติของอัสซาดสามารถเดินทางเข้าหรือออกเขตยูโรโซนได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทางรัฐบาลไซปรัสใช้เงื่อนไขใดในการอนุญาต เพราะอีก 1 ปีถัดมา (2011) พบว่า ทางสหภาพยุโรปได้ประกาศให้ รามี มาคฮ์ลูฟ ถูกสั่งคว่ำบาตร เดอะการ์เดียนชี้ และสัญชาติไซปรัสของเขาต้องถูกถอนออกไปไปหลังเกิดสงครามกลางเมืองซีเรียขึ้น

ทั้งนี้จากปัญหาที่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปใช้ช่องว่างในการออกวีซ่าพิเศษเพื่อระดมทุน ทำให้ทางรัฐสภายุโรปมีกำหนดวาระการประชุมหารือที่จะเกิดขึ่นภายในครึ่งปีหลังนี้ เพื่อแก้ไขต่อการกำหนดให้บรรดาชาติสมาชิกต้องออกมาตรการตรวจเช็กประวัติด้านความปลอดภัยต่อผู้ขอโครงการวีซ่าทองของประเทศต่างๆ

และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการยุโรป ได้ออกคำสั่งพิเศษให้มีการเปิดสอบสวนโครงการวีซ่าพิเศษของประเทศที่ออกว่า เป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งนอกจากไซปรัสแล้ว ยังพบว่า มอนเตเนโกร เป็นหนึ่งในชาติที่ได้ใช้ช่องทางนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ทางไซปรัสได้ออกมาโต้ในกรณีของญาติอัสซาด โดยชี้ว่า ชายผู้นี้ไม่ได้รับสัญชาติผ่านโครงการวีซ่าทองในปัจจุบันนี้ แต่ได้ผ่านโครงการอื่น แต่ไม่เปิดเผยในรายละเอียด

ทางไซปรัสชี้แจงว่า “โครงการวีซ่าทอง” ของตัวเองนั้นเป็นโครงการที่ออกมาเพื่อการปรับปรุง และยังมีกระบวนการที่มีความโปร่งใส และมีการตรวจเช็กผู้ขอ ซึ่งในส่วนของมาคฮ์ลูฟ ไซปรัสอ้างว่า ได้ออกคำสั่งถอนสัญชาติในภายหลัง ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์ว่า ทางรัฐบาลไซปรัสพร้อมที่จะแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด

กระทรวงการคลังไซปรัส ชี้ว่า โครงการวีซ่าทองนี้เกิดขึ้นเพื่อจุดประสงค์ด้านการส่งเสริมการลงทุนอย่างแท้จริง และอีกทั้งผู้ที่ขอจะต้องได้รับการตรวจสอบจากธนาคารไซปรัส ธ.ไซปริออต (Cypriot bank) ว่า เงินที่นำเข้ามานั้นเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือไม่ และชี้ว่า ไม่ใช่แค่ไซปรัสประเทศเดียวที่ได้ให้สัญชาติแก่บรรดาเศรษฐีรัสเซีย แต่สมาชิกอียูชาติอื่นๆกระทำเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น