เอเจนซีส์ - โตเกียวฉลองครบรอบ 5 ปี ประกาศให้หมู่เกาะพิพาทเซงกากุ หรือหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ในภาษาจีนวันนี้ (11 ก.ย.) ท่ามกลางความวิตกการยั่วยุจากจีน ส่งทั้งเรือรัฐบาลกลาง กองทัพเรือประมง และโดรนป้วนเปี้ยน อาซาฮี ชิมบุน ยืนยัน ประมงจีนยอมรับจะเข้าเขตน่านน้ำหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับปักกิ่งเท่านั้น
เจแปนไทม์สรายงานวันนี้ (11 ก.ย.) ว่า ดูเหมือนโตเกียวยังคงวิตกถึงการที่ปักกิ่งจะใช้กำลังเข้ารุกรานหมู่เกาะเซงกากุ ซึ่งเป็นหมู่เกาะพิพาทระหว่าง 3 ชาติ ญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน โดยในการฉลองครบรอบ 5 ปีของการประกาศสิทธิครอบครองเหนือเกาะแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ใน จ.โอกินาวา
ด้านหัวหน้าเลขาธิการคณะ ครม.ญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ แถลงถึงการยั่วยุปักกิ่งต่อเขตน่านน้ำใกล้หมู่เกาะเซงกากุเมื่อวันศุกร์ (8) ว่า
“ทางเราวิตกกังวลเป็นอย่างมาก และจะตอบโต้อย่างสุขุมและมุ่งมั่น”
สื่อญี่ปุ่นชี้ว่า นับตั้งแต่โตเกียวประกาศให้หมู่เกาะพิพาทเซ็งกะกุในทะเลจีนตะวันออกตกเป็นของญี่ปุ่นเมื่อปี 2012 ปักกิ่งส่งกองเรือของตัวเอง รวมไปถึงกองทัพเรือประมงจีนมาป้วนเปี้ยนบริเวณใกล้น่านน้ำของหมู่เกาะพิพาทถี่ยิบ ถึงแม้ว่าในระยะหลังจะไม่ปรากฏบ่อยครั้งก็ตาม
อ้างอิงจากแหล่งข่าวสมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ชี้ว่า น่าจะมีสาเหตุมาจากความต้องการของปักกิ่งที่จะไม่เพิ่มความตึงเครียดขึ้นก่อนหน้าการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
พบว่าในเดือนสิงหาคม 2016 ผ่านมา พบว่ากองทัพเรือประมงจีนราว 200-300 ลำ ปรากฏขึ้นบริเวณใกล้น่านน้ำหมู่เกาะเซงกากุอย่างน่าสงสัย และตามด้วยการลุกล้ำน่านน้ำของเกาะจากเรือรัฐบาลปักกิ่งอย่างสม่ำเสมอ
แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์รุกล้ำน่านน้ำหมู่เกาะเซงกากุจากปักกิ่งดูเหมือนจะลดลง เพราะพบว่า ครั้งล่าสุดของการเข้ามาปรากฏตัวของปักกิ่งบริเวณน่านน้ำเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2017 พบโดรนลึกลับที่เชื่อว่าเป็นของจีน บินสำรวจป้วนเปี้ยนใกล้กับเขตหมู่เกาะพิพาท
ทั้งนี้ การปรากฏตัวเข้ามาของกองทัพประมงจีนใกล้เขตน่านน้ำหมู่เกาะเตียวหยู หรือเซงกากุนั้น สื่ออาซาฮี ชิมบุน รายงานเมื่อวานนี้ (10) ว่า ชาวประมงจีนยอมรับว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการออกคำสั่งเข้าใกล้น่านน้ำของหมู่เกาะคือรัฐบาลจีนเท่านั้น
ทางสื่ออาซาฮีได้ทำการสอบถามจากบรรดาเรือประมงจีนบริเวณท่าเรือชีปู (Shipu) ในมณฑลเจ้อเจียง ชายฝั่งทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของจีน
การสัมภาษณ์เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (7 ก.ย.) ซึ่งหนึ่งในชาวประมงท้องถิ่นได้กล่าวกับนักข่าวญี่ปุ่นด้วยความภาคภูมิใจว่า “ฤดูหาปลาได้เริ่มขึ้นแล้ว” และกล่าวต่อว่า “กองทัพเรือประมงจีนนับพันลำจะพร้อมใจกันออกจากท่า ซึ่งอาจมีเรือประมงบางส่วนมุ่งหน้าไปยังหมู่เกาะพิพาทเตี้ยวอี๋ว์”
อาซาฮี ชิมบุน ระบุว่า พบว่าเรือประมงจีนที่จอดอยู่นั้นมีขนาดเดียวกันกับเรือตรวจการณ์ยามฝั่งญี่ปุ่น ซึ่ง กัปตันเรือประมงจีนวัย 50 ปี ลี (Li) ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า เขาไม่กลัวเรือยามฝั่งญี่ปุ่นที่มักปรากฏเพื่อทำการขับไล่เรือประมงจีนออกจากบริเวณใกล้น่านน้ำเขตหมู่เกาะเตียวหยู เป็นเพราะเรือประมงจีนมีเรือยามฝั่งจีนคอยคุ้มกันอยู่ใกล้ๆ
โดยยืนยันว่า การเดินทางไปยังหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ หรือหมู่เกาะเซงกากุในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งมีระยะ 200 ไมล์ทะเล ประมงจีนใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้นในการเดินทาง
กัปตันเรือลีปฏิเสธที่จะตอบคำถามนักข่าวญี่ปุ่นว่า ปีนี้จะเดินทางไปหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์หรือไม่ ลีตอบกลับมาว่า “ในขณะที่พวกเรามีเสรีภาพที่จะจับปลาที่ใดก็ได้ตามที่เราต้องการ แต่ทว่าน่านน้ำรอบบริเวณหมู่เกาะเตียวหยู ถือเป็นพื้นที่เดียวที่เราไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง”
สอดคล้องกับการให้ข้อมูลจากกัปตันเรือรายที่ 2 ในวัย 52 ปีที่ให้ข้อมูลเพียงชื่อสกุลเช่นกัน คือ หวู (Wu) โดยเขากล่าวยืนยันกับอาซาฮี ชิมบุนว่า ปักกิ่งเป็นผู้ตัดสินใจว่าเรือประมงจีนจะสามารถเดินทางไปบริเวณใกล้หมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออกได้หรือไม่ โดยอ้างไปถึงการได้รับสิทธิ์คุ้มกันจากกองเรือยามฝั่งจีนหากเดินทางไปตามใบสั่งของปักกิ่ง
และในรายงานของอาซาฮี ชิมบุน ***ยังเป็นการเปิดเผยจากลูกเรือประมงจีนถึงการให้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลปักกิ่งในการส่งเรือประมงเหล่านี้เข้าไปก่อกวนใกล้กับเขตน่านน้ำหมู่เกาะเซงกากุเมื่อครั้งที่โตเกียวประกาศถือสิทธิ์ครอบครองหมู่เกาะแห่งนี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 ก.ย 2012 ****
โดยหนึ่งในลูกเรือประมงในวัย 40 ปี ที่อยู่บนเรือจับปลาของกัปตันหวูยืนยันว่า 5 ปีก่อนหน้า หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศถือสิทธิ์ในหมู่เกาะเตียวหยูเรียบร้อยแล้ว ไม่นานหลังจากนั้น ทางรัฐบาลกลางปักกิ่งได้ให้เงิน 1 ล้านหยวน (158 ล้านดอลลาร์) แก่บรรดาเรือประมงจีน เพื่อเดินทางมุ่งไปยังหมู่เกาะพิพาท
แต่อย่างไรก็ตาม ลูกเรือประมงจีนยอมรับว่าเงินที่ทางรัฐบาลกลางจีนให้ในปีหลังๆ มีจำนวนลดลง ซึ่งพบว่าเหลือเพียงแค่ 250,000 หยวนต่อปีเท่านั้น และในปีนี้พบว่ามีแค่เรือประมงจีน 2 ลำจากท่าเรือชีปูเดินทางไปยังหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ โดยลูกเรือจีนอ้างว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมาจำนวนเรือประมงจีน และความถี่ของการเดินทางไปยังหมู่เกาะพิพาทนั้นลดลง
ด้านกัปตันเรือจีน หวู กล่าวปิดท้ายการให้สัมภาษณ์กับอาซาฮี ชิมบุนว่า “หากมีความเสี่ยง ผมก็ไม่อยากไปที่นั่น”
แต่อย่างไรก็ตาม เขากล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า หมู่เกาะพิพาทแห่งนี้เป็นของรัฐบาลกลางจีนอย่างไม่ต้องสงสัย และยืนยันว่า “ในขณะที่เรายังแข็งแกร่งไม่พอในเวลานี้ ผมรู้สึกยินดีในการไปที่นั่น ท่ามกลางการอารักขาอย่างแน่นหนาจากกองเรือรบจีนและยามฝั่งจีนในจำนวนที่มากพอ”
