xs
xsm
sm
md
lg

ทหาร รบ.ซีเรียที่อิหร่าน-รัสเซียหนุน กับกองกำลังกบฏเคิร์ด-อาหรับซึ่งสหรัฐฯเชียร์ แข่งกันรุกไล่ ‘ไอเอส’ จากภาคตะวันออกซีเรีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>กองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียยืนรักษาการณ์อยู่ที่ด่านตรวจแห่งหนึ่งบริเวณนอกเมืองเดอีร์ อัล-ซอร์ เมื่อวันอาทิตย์ (10 ก.ย.) ภายหลังเปิดการรุกจนทำลายการปิดล้อมที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปีได้สำเร็จ  รวมทั้งกำลังเคลื่อนทัพบุกต่อไปทั่วทั้งจังหวัดร่ำรวยด้วยน้ำมันและอยู่ติดกับชายแดนอิรักแห่งนี้ </i>
เอพี/รอยเตอร์ - กองกำลังอาวุธชาวเคิร์ดและอาหรับในซีเรียที่หนุนหลังโดยสหรัฐฯ เปิดการรุกโจมตีกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ในภาคตะวันออกของซีเรียตามแนวชายแดนติดต่อกับอิรัก เป็นการนำพวกเขาเข้าแข่งขันกับกองกำลังอาวุธฝ่ายรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียและอิหร่าน ซึ่งก็กำลังเคลื่อนทัพไปยังอาณาบริเวณเดียวกัน เพื่อช่วงชิงจังหวัดเดอีร์ อัล-ซอร์ พื้นที่ผืนใหญ่ผืนสุดท้ายในซีเรีย ที่ยังอยู่ในกำมือของกลุ่มอิสลามิสต์สุดโต่งกลุ่มนี้

การที่ทั้งสองฝ่ายเปิดการประลองกันในสงครามช่วงชิง เดอีร์ อัล-ซอร์ เช่นนี้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นความสำคัญของจังหวัดภาคตะวันออกของซีเรียที่ร่ำรวยด้วยน้ำมันแห่งนี้ ซึ่งได้กลายเป็นจุดโฟกัสสุดท้ายของสงครามที่นานาชาติมุ่งปราบปรามกลุ่มไอเอส และก็กำลังสร้างความกังวลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่าจะเกิดการปะทะกันระหว่างสองฝ่ายจนได้ในที่สุด

กองกำลังแห่ง “สภาทหารเดอีร์ อัล-ซอร์” (Deir al-Zor Military Council) ที่ได้รับการฝึกอบรมจากสหรัฐฯแถลงในวันเสาร์ (9 ก.ย.) ว่า ตั้งชื่อยุทธการคราวนี้ของตนว่า “พายุ จาซีรา” (Jazeera Storm) ตามชื่อซึ่งนิยมใช้เรียกขานพื้นที่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย สภาทหารนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ “กองกำลังประชาธิปไตยชาวซีเรีย” (Syrian Democratic Forces ใช้อักษรย่อว่า SDF) ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ที่สุดเป็นชาวเคิร์ดซีเรียซึ่งสังกัดกองกำลังอาวุธ YPG และได้รับการสนับสนุนทางทหารอย่างกว้างขวางจากสหรัฐฯ ทั้งนี้สหรัฐฯถือว่า SDF เป็นพันธมิตรสำคัญที่สุดของตนในการสู้รบปราบปรามกลุ่มไอเอสในซีเรีย

เห็นกันว่าการแข่งขันกันเพื่อไปให้ถึงชายแดนติดต่อกับอิรักนี้ จะเป็นตัวกำหนดความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของภูมิภาคแถบนี้ในอนาคต รวมทั้งจะเป็นตัวตัดสินว่าสหรัฐฯหรือรัสเซียกับอิหร่าน จะเป็นฝ่ายมีอิทธิพลมากกว่าในพื้นที่แถบนี้ซึ่งมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ในทันทีที่กลุ่มไอเอสแพ้พ่ายไป

อิหร่านนั้นเป็นหนึ่งในผู้หนุนหลังประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด อย่างแข็งขันที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ซีเรียเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม 2011 และได้จัดส่งนักรบซึ่งอิหร่านหนุนหลังอยู่จำนวนหลายพันคนตลอดจนพวกที่ปรึกษาเข้าสู้รบกับกลุ่มกบฏต่างๆ ที่พยายามโค่นล้มอัสซาดให้ตกลงจากอำนาจ
<i>กองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียอยู่ในอาการยินดีปรีดา ที่ด่านตรวจแห่งหนึ่งบริเวณนอกเมืองเดอีร์ อัล-ซอร์ วันอาทิตย์ (10 ก.ย.) </i>
กองกำลังกบฏ SDF ซึ่งสหรัฐฯสนับสนุนอยู่ ถือว่าต้องเผชิญกับการท้าทายอันใหญ่โตทีเดียวในการบุกเข้าสู่เดอีร์ อัล-ซูร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่พวกเขายังคงกำลังสู้รบเพื่อปลดปล่อยเมืองร็อกเกาะฮ์จากเงื้อมมือของไอเอส ทั้งนี้หลังจากทำการสู้รบมาได้ราว 3 เดือนแล้ว พวกเขาสามารถปลดปล่อยพื้นที่ของเมืองใหญ่แห่งนี้ได้ประมาณ 60% และยังจะต้องทำการสู้รบอันยากลำบากยิ่งขึ้นอีกเพื่อชิงพื้นที่เขตตัวเมืองที่ยังเหลืออยู่

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังอาวุธฝ่ายรัฐบาลซีเรียและเหล่าพันธมิตรที่หนุนหลังโดยอิหร่าน สามารถรุกเข้าไปถึงเมืองเดอีร์ อัล-ซอร์ แล้ว และกำลังทำลายสภาพที่ไอเอสเข้าปิดล้อมหลายส่วนของเมืองซึ่งยังคงอยู่ในความควบคุมของรัฐบาล มาเป็นเวลายาวนานเกือบๆ 3 ปี นับเป็นการผ่าทางตันครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในการรุกไล่ปราบปรามไอเอสของพวกเขา ในคำแถลงประกาศชัยชนะ กองทัพซีเรียประกาศว่าจะใช้การชิงคืนเดอีร์ อัล-ซอร์ เป็นแรงกระตุ้นในการเข้าปลดปล่อยพื้นที่ต่างๆ ตามแดนพรมแดนติดต่อกับอิรักซึ่งพวกไอเอสยังยึดครองอยู่

สื่อของรัฐในซีเรียรายงานว่า กองกำลังฝ่ายรัฐบาลสามารถทำลายการปิดล้อมสนามบินเมืองเดอีร์ อัล-ซอร์ ของไอเอสได้แล้วในวันเสาร์ (9)

ขณะเดียวกัน กองบัญชาการของกองทัพอิรักประกาศในวันเดียวกันว่า ได้ยึดแหล่งน้ำมัน“ตออิม” (Taym) ในจังหวัดนี้คืนมาจากพวกไอเอสได้แล้ว

ต่อมาในวันอาทิตย์ (10) หน่วยงานสื่อที่ดำเนินการโดยฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มการเมืองและกลุ่มติดอาวุธในเลบานอนที่อิหร่านหนุนหลัง อีกทั้งส่งกองกำลังเข้าร่วมรบในซีเรียและอิรักมานานแล้วด้วย รายงานว่า กองทหารซีเรียและกลุ่มพันธมิตร ด้วยการหนุนหลังของอิหร่านและการคุ้มกันทางอากาศจากรัสเซีย สามารถรุกคืบหน้าไปจากด้านตะวันตก จนเข้าควบคุมทางหลวงสายเดอีร์ อัล-ซอร์ กับ กรุงดามัสกัส เอาไว้ได้อย่างเต็มที่แล้ว
<i>กองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียรวมกำลังกันที่ถนนสายหลักเข้าสู่เมืองเดอีร์ อัล-ซอร์ เมื่อวันอาทิตย์ (10 ก.ย.) </i>
ขณะที่กลุ่มผู้สังเกตการณ์ชาวซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นกลุ่มติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ในซีเรียรายงานว่า มีพลเรือนอย่างน้อย 17 คนถูกสังหารจากการทิ้งระเบิดของรัสเซียในเดอีร์ อัล-ซอร์ วันอาทิตย์ (10)

ขัดขวาง “ระเบียงของฝ่ายอิหร่าน”

วอชิงตันนั้นมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสกัดกั้นการก่อตัวถือกำเนิดของสิ่งที่เรียกกันว่า “ระเบียงของฝ่ายอิหร่าน” (Iranian corridor) ซึ่งหมายถึงดินแดนที่ตกอยู่ใต้การควบคุมของชาวชีอะห์ตั้งแต่กรุงเตหะรานแผ่ไปจนถึงกรุงดามัสกัส และกำลังให้ความสนใจมาเป็นแรมเดือนแล้วต่อพื้นที่จังหวัดเดอีร์ อัล-ซอร์ ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของร็อกเกาะฮ์ ไปจนจรดพรมแดนอิรัก

ก่อนหน้านี้ SDF พวกกบฏในซีเรียที่สหรัฐฯให้การสนับสนุน ได้พยายามรวมกำลังกันที่เมืองตอนิฟ (Tanf) ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของซีเรียที่ติดชายแดนอิรัก โดยที่จะเคลื่อนพลจากที่นั่นต่อไปยังเดอีร์ อัล-ซอร์ ทว่าแผนการของพวกเขาถูกขัดขวางในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อกองทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรียบุกไปจนถึงชายแดนติดต่อกับอิรัก ซึ่งขัดขวางเส้นทางของพวกเขา หนทางที่ยังเหลืออยู่สำหรับให้ SDF เข้าสู่จังหวัดอุดมด้วยน้ำมันและอยู่ติดชายแดนอิรักแห่งนี้ได้ ดูเหมือนจะต้องผ่านจังหวัดฮาซากา (Hasaka) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่พวกนักเคลื่อนไหวชาวซีเรียกล่าวว่า กองกำลังฝ่ายกบฏที่หนุนหลังโดยสหรัฐฯ กำลังไปชุมนุมกันและเพิ่มการตระเตรียมเพื่อการรุกโจมตี

ในการประกาศเปิดยุทธการเมื่อวันเสาร์ (9) สภาทหารเดอีร์ อัล-ซอร์ ของ SDF บอกว่า จะมุ่งเข้าตีพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันออกของจังหวัดเดอีร์ อัล-ซอร์ และเปิดการโจมตีจากพื้นที่ชนบททางตอนเหนือของจังหวัด รวมทั้งจากตอนใต้ของจังหวัดฮาซากา ซึ่งอยู่ใต้การควบคุมของกองกำลัง YPG

พวกเจ้าหน้าที่ SDF บอกว่าจังหวะเวลาของการเปิดยุทธการ “พายุ จาซีรา” นี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่กองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียสามารถบุกเข้าไปถึงเดอีร์ อัล-ซอร์ เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่มีการวางแผนล่วงหน้าเกี่ยวกับยุทธการนี้มาเป็นแรมเดือนแล้ว
<i>รถติดอาวุธของกองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรีย เข้าสู่เมืองเดอีร์ อัล-ซอร์ เมื่อวันอาทิตย์ (10 ก.ย.) </i>
“เดอีร์ อัล-ซอร์ เป็นจุดต่อเชื่อมหลักจุดหนึ่ง และเป็นพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีความสำคัญมาก” เป็นคำอธิบายของ นาวัฟ คอลิล เจ้าหน้าที่ชาวเคิร์ดซีเรีย ซึ่งอาศัยอยู่ในเยอรมนีแต่ไปเยือนภาคเหนือซีเรียอยู่บ่อยๆ เขากล่าวด้วยว่าเวลานี้สงครามชิงเมืองร็อกเกาะฮ์ต้องอาศัยกำลังนักรบลดน้อยลงแล้วเมื่อเทียบกับช่วงแรกๆ ของการเข้าตี

ขณะที่ อาเหม็ด อาบู คอวลา ผู้บัญชาการของกองกำลังสภาทหารเดอีร์ อัล-ซอร์ กล่าวว่า เขาบังคับบัญชานักรบจำนวนราว 4,000 คน ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดเดอีร์ อัล-ซอร์

เขาบอกว่ากองกำลังของเขาสามารถปลดปล่อยหมู่บ้าน 93 แห่งในพื้นที่ชนบททางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเดอีร์ อัล-ซอร์ ได้แล้ว นอกจากนั้น SDF ยังกำลังจัดตั้งสภาพลเรือนท้องถิ่นขึ้นมาเพื่อเข้าบริหารพื้นที่แถบนี้ภายหลังการปฏิบัติการทางทหาร

เมื่อถูกถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่กองกำลังของเขาจะเกิดการประจันหน้ากับกองกำลังฝ่ายรัฐบาล อาบู คอวลา ตอบว่า “ถ้าระบอบปกครอง (รัฐบาลซีเรีย) ต้องการที่จะประจันหน้า หรือส่งลูกปืนตรงมาที่เรา เราก็จะตอบโต้”

ในวันอาทิตย์ (10) SDF แถลงว่า กองกำลังของพวกเขาสามารถบุกเข้าไปถึงพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรม เดอีร์ อัล-ซอร์ ซึ่งอยู่ห่างไม่กี่กิโลเมตรจากด้านตะวันออกของเมืองนี้
<i>ภาพจากสำนักข่าวซานา ของทางการซีเรีย เมื่อวันอาทิตย์ (10 ก.ย.) แสดงให้เห็นประชาชนรอรับข้าวของช่วยเหลือจากกองกำลังรัสเซีย ในเมืองเดอีร์ อัล-ซอร์ </i>
กำลังโหลดความคิดเห็น