ซีเอ็นเอ็น - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพุธ (6 ก.ย.) เผยว่าปฏิบัติการทางทหารไม่ใช่ตัวเลือกแรกของเขาในการจัดการกับเกาหลีเหนือ ที่กำลังเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากต่อโทรศัพท์พูดคุยกับ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน
“ไว้รอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไว้รอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ทรัมป์กล่าวเมื่อถูกถามว่าเขายังคงพิจารณาใช้ทางเลือกด้านการทหารกับเกาหลีเหนือหรือไม่ “แน่นอนว่ามันไม่ใช่ทางเลือกแรก แต่ไว้รอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ทรัมป์เผย พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า เขาและสี มีความเห็นพ้องกัน ตามหลังการพูดคุยทางโทรศัพท์ที่เขาให้คำจำกัดความว่า “ตรงไปตรงมาและหนักแน่น”
“เราจะไม่ทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเกาหลีเหนือ ผมเชื่อว่าประธานาธิบดีสี เห็นพ้องกับผม 100 เปอร์เซ็นต์” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในทำเนียบขาว
ด้านสำนักข่าวซีซีทีวี สื่อมวลชนแห่งรัฐของจีนรายงานในวันพุธ (6 ก.ย.) ว่า สี ย้ำถึงความมุ่งมั่นของจีนในการที่จะทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์และเรียกร้องหาทางออกด้วยสันติวิธี ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับทรัมป์
การพูดคุยกันทางโทรศัพท์ครั้งนี้มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์และรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งสารคำเตือนถึงเกาหลีเหนือ ว่าการคุกคามใดๆ ในอนาคตจะต้องเจอการตอบโต้ด้วยแสนยานุภาพทางทหาร ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการโจมตีทางนิวเคลียร์ โดยคำเตือนนี้มีขึ้นหลังจากเปียงยางดำเนินการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตอนที่ถูกถามเมื่อวันอาทิตย์ (3 ก.ย.) ว่าเขาจะโจมตีเกาหลีเหนือหรือไม่ ทรัมป์ตอบกลับมาสั้นๆ ว่า “แล้วเราจะได้เห็นกัน”
ทรัมป์ พยายามโน้วน้าวจีนมาตลอด ในความหวังว่าคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือแห่งนี้จะใช้อิทธิพลยับยั้งความเคลื่อนไหวทางนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่ก้าวร้าวขึ้นเรื่อยๆ ของเปียงยาง
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้มาตรการกดดันทางการทูตเพิ่มเติมเมื่อวันอาทิตย์ (3 ก.ย.) ด้วยเตือนว่าเขากำลังพิจารณาหยุดทำการค้าทั้งหมดกับประเทศใดก็ตามที่ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม การตัดความสัมพันธ์ทางการค้าใดๆ กับจีนจะก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่เศรษฐกิจของทั้งสหรัฐฯ และจีนเอง ดังนั้นพวกผู้เชี่ยวชาญจึงรุดออกมาปฏิเสธแนวทางนี้อย่างรวดเร็ว ทำให้คำขู่ของทรัมป์จึงกลายเป็นเพียงโวหารที่ว่างเปล่าเท่านั้น
กระนั้น ทรัมป์ ได้ส่งสัญญาณว่าเขาผิดหวังกับความล้มเหลวและไม่มีความตั้งใจของจีนในการควบคุม คิม จองอึน ผู้นำจอมเผด็จการของเกาหลีเหนือ ที่เดินหน้าพัฒนาแสนยานุภาพด้านขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของประเทศอย่างไม่หยุดหย่อน จนก่อความกังวลแก่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าปัจจุบันขีปนาวุธของเปียงยางอาจมีพิสัยโจมตีถึงแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาแล้วก็เป็นได้