มนตรีแห่งรัฐจีนป้อง “ปากีสถาน” หลังถูกมะกันหาให้ที่กบดานกลุ่มติดอาวุธ

เอเอฟพี - นักการทูตระดับสูงของจีนปกป้องบทบาทสำคัญของปากีสถานในอัฟกานิสถานในระหว่างคุยโทรศัพท์กับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวหาอิสลามาบัดให้ที่หลบภัยกลุ่มติดอาวุธ

ในระหว่างการเปิดเผยยุทธศาสตร์อัฟกานิสถานของเขาในสัปดาห์นี้ ทรัมป์กล่าวว่า ปาสถีสถานเล่นเกมสองหน้าด้วยการยอมรับความช่วยเหลือของอเมริกันในขณะเดียวกับที่ให้แหล่งกบดานแก่กลุ่มกบฏที่สังหารทหารอัฟกานิสถานและทหารนาโต

แต่เมื่อวานนี้ (23) มนตรีแห่งรัฐของจีน หยาง เจียฉี บอกกับทิลเลอร์สันว่า “เราควรให้ความสำคัญต่อบทบาทสำคัญที่ปากีสถานมีในประเด็นอัฟกานิสถาน เคารพอำนาจอธิปไตยและความกังวลด้านความมั่นคงอันชอบธรรม (ของปากีสถาน)” ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ

นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ปักกิ่งปกป้องเพื่อนบ้านแถวเอเชียใต้แห่งนี้ในสัปดาห์นี้ หลังจากโฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศ ฮวา ชุนอิง ยกย่องปากีสถานเมื่อวันอังคาร (22) ว่า “เสียสละและสนับสนุนอย่างใหญ่หลวงเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย”

ปักกิ่งกำลังทุ่มเม็ดเงินราว 50 ล้านดอลลาร์ในปากีสถานในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการที่ถูกเปิดเผยใน 2015 เพื่อเชื่อมแคว้นซินเจียงทางตะวันตกไกลกับเมืองท่ากวาดาร์ในจังหวัดบาโลจิสถานของปากีสถาน

หยางกล่าวว่า ปักกิ่งมีพันธกิจในการ “ขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพและปรองดองในอัฟกานิสถานให้คืบหน้า” และว่า การเจรจาทางการเมืองเป็น “หนทางเดียวในแก้ปัญหาของอัฟกานิสถาน”

เขากล่าวเสริมว่า “จีนต้องการรักษาการติดต่อและการประสานงานเกี่ยวกับปัญหาอัฟกานิสถานกับฝ่ายสหรัฐฯต่อไป”

การคุยโทรศัพท์ระหว่างนักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯและจีนมีขึ้นหลังจากความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้นระหว่างสองมหาอำนาจเมื่อวานนี้ (23) ในขณะที่วอชิงตันใช้มาตรการคว่ำบาตรกับบริษัทจีนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือจนสร้างความไม่พอใจให้กับปักกิ่ง

จีนยังเตือนด้วยว่า วอชิงตันไม่ควรสร้าง “สงครามทางการค้า” หลังจากทรัมป์สั่งสืบสวนพฤติกรรมด้านทรัพย์สินทางปัญญาของปักกิ่ง

อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงของกระทรวงที่ออกมาเมื่อค่ำวานนี้ (23) ไม่ได้ระบุว่า ทิลเลอร์สันและหยางหารือประเด็นการค้า การคว่ำบาตร หรือวิกฤตนิวเคลียร์เกาหลีเหนือหรือไม่

หยางกล่าวว่า วอชิงตันและปักกิ่งติดต่อและประสานงานกันในหลายประเด็นและนักการทูตทั้งสองหารือถึงแผนการเยือนจีนของทรัมป์ในปีนี้

เขายังแสดงความหวังด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายจะรักษา “ความเคารพกันและกัน” และ “จัดการข้อพิพาทต่างๆ อย่างเหมาะสมและร่วมกันส่งเสริมแนวโน้มที่ดีการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ”