เอเจนซีส์ - รถไฟด่วนพิเศษอินเดียประสบอุบัติเหตุตกรางที่รัฐอุตตรประเทศเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (23 ส.ค.) ล่าสุดสื่อท้องถิ่นรายงานยอดผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 70 ราย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 4 วันหลังจากที่รถไฟด่วนอีกขบวนพุ่งตกรางจนมีผู้เสียชีวิต 23 ศพ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์
อานิล ซาเซนา โฆษกการรถไฟอินเดีย ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า ขบวนรถด่วน ไคฟียัต เอ็กซ์เพรส ซึ่งเดินทางมาจากเมืองอาซัมครห์ (Azamgarh) เพื่อไปยังกรุงนิวเดลี ได้ชนเข้ากับรถบรรทุกวัสดุก่อสร้าง ทำให้ตู้โดยสารล้มคว่ำระเนระนาดรวม 12 ตู้
“เราเร่งส่งหน่วยกู้ภัยและช่วยชีวิตเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ และผู้บาดเจ็บทุกรายถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว” ซาเซนา ระบุ
สัญจีฟ ทยากี ผู้กำกับการตำรวจท้องถิ่น ให้สัมภาษณ์จากที่เกิดเหตุว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บราว 42 คน และอาการไม่รุนแรงนัก ขณะที่เว็บไซต์ดิอินเดียนเอ็กซ์เพรสส์รายงานยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 70 ราย จากอุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นที่เขตโอไรยา (Auraiya) เมื่อเวลา 02.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น
นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ที่เกิดอุบัติเหตุรถไฟขึ้นในรัฐซึ่งมีประชากรหนาแน่นที่สุดในอินเดีย โดยเมื่อวันที่ 19 ส.ค. รถไฟด่วนขบวนหนึ่งซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหริทวาร (Haridwar) ก็ประสบเหตุตกรางจนมีผู้เสียชีวิต 23 ราย บาดเจ็บอีก 150 คน
เครือข่ายเส้นทางรถไฟในอินเดียมีความยาวมากเป็นอันดับ 4 ของโลก และมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 22 ล้านคนต่อวัน
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า รถไฟอินเดียเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเนื่องจากขาดงบประมาณซ่อมบำรุง และมาตรฐานความปลอดภัยที่ต่ำ
เมื่อไม่ถึง 1 ปีก่อนก็เกิดเหตุอุบัติเหตุลักษณะเดียวกันนี้ที่รัฐอุตตรประเทศ และมีผู้เสียชีวิตไปมากถึง 146 คน
รัฐบาลอินเดียเผยแพร่รายงานเมื่อปี 2012 ซึ่งระบุว่า แต่ละปีจะมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรางมากถึง 15,000 คน ซึ่งอาจนับได้ว่าเป็นการ “สังหารหมู่”
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ให้สัญญาจะทุ่มงบประมาณ 137,000 ล้านดอลลาร์ในระยะ 5 ปีเพื่อยกเครื่องรถไฟอินเดียให้มีความทันสมัย และได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัทเอกชนหลายรายให้เข้ามาดำเนินการอัปเกรดรถไฟ
รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 12,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างรถไฟหัวกระสุนขบวนแรกในอินเดีย โดย โมดี และนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นเตรียมที่จะเปิดตัวโครงการในเดือน ก.ย.นี้
