เอเจนซีส์ - ผู้นำเกาหลีเหนือมีคำสั่งให้ชะลอแผนยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายใกล้เกาะกวมออกไปก่อนเพื่อรอดูท่าทีของสหรัฐฯ สื่อโสมแดงรายงานวันนี้ (15 ส.ค.) ขณะที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศจะทำทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานว่า ผู้นำคิม จองอึน ได้ปรากฏตัวออกสื่อเป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวานนี้ (14) โดยเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการกองกำลังทางยุทธศาสตร์ และได้พิจารณาแผนการยิงขีปนาวุธ 4 ลูกไปตกใกล้ๆ เกาะกวมซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ ในแปซิฟิก
“ท่านกล่าวว่า ถ้าพวกแยงกี้ยังขืนท้าทายความอดทนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) ด้วยการกระทำที่อันตรายและขาดความยับยั้งชั่งใจบนคาบสมุทรเกาหลีและพื้นที่โดยรอบ เราก็จะตัดสินใจดำเนินการครั้งสำคัญ อย่างที่ได้ประกาศไปแล้ว”
“เพื่อสลายความตึงเครียด และป้องกันการเผชิญหน้าทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลีซึ่งเป็นสิ่งที่อันตราย สหรัฐฯ จำเป็นต้องเลือกแนวทางที่เหมาะสมก่อน”
คำขู่ยิงจรวดโจมตีใกล้เกาะกวมส่งผลให้สถานการณ์ในภูมิภาคร้อนระอุขึ้นทันทีตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ก็ได้ขู่เกาหลีเหนือเช่นกันว่า กองทัพอเมริกัน “โหลดกระสุนและล็อคเป้า” เอาไว้พร้อมแล้ว หากโสมแดงยังขืนทำในสิ่งที่ “ไม่ฉลาด”
ด้านประธานาธิบดีมุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้ ยืนยันวันนี้ (15) ว่าปฏิบัติการทางทหารจะเกิดขึ้นไม่ได้หากโซลไม่ยินยอม และรัฐบาลจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามกับเกาหลีเหนือ
“ปฏิบัติการทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลีจะต้องมาจากการตัดสินใจของรัฐบาลเกาหลีใต้เท่านั้น ไม่มีใครมีสิทธิ์ใช้กำลังทหารโดยไม่ขอความเห็นชอบจากเรา” มุน กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันครบรอบการประกาศอิสรภาพของเกาหลีจากการปกครองของจักรวรรดิญี่ปุ่นในปี 1945
“รัฐบาลจะพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม”
สหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะเปิดการซ้อมรบร่วมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ซึ่งคงจะมีปฏิกิริยาตอบโต้จากโสมแดงอีกอย่างแน่นอน
เปียงยางเชื่อว่าการฝึกซ้อมทางทหารระหว่างวอชิงตันและโซลมีจุดประสงค์เพื่อรุกรานเกาหลีเหนือ และเคยยื่นข้อเสนอให้ทั้งสองชาติยุติการซ้อมรบ โดยโสมแดงจะยอมระงับกิจกรรมนิวเคลียร์และขีปนาวุธเป็นการแลกเปลี่ยน
เงื่อนไขเช่นนี้ได้รับการสนับสนุนจากจีน แต่กลับถูกปฏิเสธโดยสหรัฐฯ และเกาหลีใต้
นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า คิม กำลังใช้วิธี “ยื่นหมูยื่นแมว” อีกครั้ง โดยเอาสวัสดิภาพของเกาะกวมมาเป็นเครื่องต่อรอง
“นี่เป็นการเชื้อเชิญโดยตรงให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเจรจา เพื่อยับยั้งกิจกรรมซ้อมรบและยิงขีปนาวุธ” อดัม เมานท์ นักวิจัยอาวุโสจากศูนย์เพื่อความก้าวหน้าอเมริกัน (Center for American Progress) ระบุ
จอห์น เดลูรี จากมหาวิทยาลัยยอนเซในกรุงโซล มองว่า คิม ต้องการลดความตึงเครียดและพักเรื่องโจมตีเกาะกวมไว้ก่อน อย่างน้อยก็ในเวลานี้
“เรายังไม่พ้นช่วงเวลาอันตราย ทั้งสองฝ่ายจะต้องหยุดการกระทำและการใช้ถ้อยคำเชิงข่มขู่ และหันมาใช้แนวทางการทูตอย่างจริงจัง”
สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ยืนยันมาโดยตลอดว่า ปฏิบัติการซ้อมรบร่วมมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องตนเองเท่านั้น
หนังสือพิมพ์โกลบัลไทม์สของจีนระบุในบทบรรณาธิการฉบับวันนี้ (15) ว่า เกาหลีใต้ควรทำตัวเป็น “รัฐกันชน” ระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าอย่างเต็มรูปแบบ
“การซ้อมรบมีแต่จะยั่วยุให้เกาหลีเหนือตอบโต้รุนแรงมากขึ้น... ถ้าเกาหลีใต้ไม่ปรารถนาให้เกิดสงครามบนคาบสมุทรเกาหลีจริงๆ ก็จงหยุดการซ้อมรบครั้งนี้เสีย”