รอยเตอร์ - ทำเนียบขาวยืนยันวานนี้ (13 ส.ค.) ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งใจประณามพวกชาตินิยมผิวขาวหัวรุนแรงทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นพวกคูคลักซ์แคลน (Ku Klux Klan) หรือนีโอนาซี ที่ออกมาก่อเหตุวุ่นวายที่รัฐเวอร์จิเนีย หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าผู้นำสหรัฐฯ ไม่ตำหนิพวก “ไวท์ซูพรีเมซิสต์” มากพอ
ทางการสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นสอบสวนเหตุรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (12) ที่เมืองชาร์ล็อตต์สวิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย หลังกลุ่มขวาจัดรวมตัวต่อต้านแผนการย้ายรูปปั้น โรเบิร์ต อี. ลี ผู้นำกองทัพคอนเฟเดอเรชัน ซึ่งเป็นวีรบุรุษของฝ่ายใต้ในสงครามกลางเมืองอเมริกา จนนำมาสู่การปะทะกับพวกที่ไม่เห็นด้วย เรื่องนี้กลายเป็นแรงกดดันให้ ทรัมป์ ต้องเร่งหาวิธีจัดการกับพวกชาตินิยมขวาจัดที่เป็นฐานเสียงส่วนใหญ่ของเขาเอง
ข้อมูลล่าสุดพบว่ามีหญิงวัย 32 ปีเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 19 ราย อาการสาหัส 5 ราย หลังชายคนหนึ่งขับรถยนต์ห้อตะบึงเข้าใส่กลุ่มคนที่ออกมาประท้วงต่อต้านพวกชาตินิยมผิวขาว และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 15 คนจากการต่อสู้ระหว่างผู้ชุมนุม 2 ฝ่ายซึ่งใช้ทั้งวิธีแลกหมัด ขว้างก้อนหิน และพ่นสเปรย์พริกไทยใส่กัน
นอกจากนี้ยังมีตำรวจเสียชีวิตอีก 2 นายจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก หลังพยายามเข้าไประงับเหตุชุลมุน
เจมส์ อเล็กซ์ ฟิลด์ส จูเนียร์ วัย 20 ปี ซึ่งเป็นคนผิวขาวจากรัฐโอไฮโอ ที่เคยสมัครเข้าเป็นทหารแต่ถูกกองทัพปฏิเสธ ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและอื่นๆ จากการขับรถยนต์พุ่งชนผู้ชุมนุม โดยอดีตครูมัธยมคนหนึ่งของเขาเล่าว่า หนุ่มรายนี้ “ลุ่มหลง” แนวคิดนีโอนาซี และ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น
สมาชิกพรรคโมแครตและรีพับลิกันต่างไม่พอใจที่ ทรัมป์ ประวิงเวลาอยู่นานกว่าจะออกมาประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น และยังไม่ยอมตำหนิพวกไวท์ซูพรีเมซิสต์ซึ่งเป็นต้นตอของเหตุชุลมุนตรงๆ
ทำเนียบขาวออกมาชี้แจงจุดยืนของทรัมป์ เมื่อวานนี้ (13) โดยระบุว่า “ประธานาธิบดีกล่าวชัดเจนว่าท่านประณามความรุนแรง ความดันทุรัง และความเกลียดชังทุกรูปแบบ และแน่นอนว่ารวมถึงพวกคูคลักซ์แคลน นีโอนาซี และกลุ่มสุดโต่งอื่นๆ ท่านเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมสร้างความเป็นเอกภาพในชาติ และขอให้ชาวอเมริกันสามัคคีกัน”
คำแถลงนี้ถูกส่งอีเมลให้แก่สื่อมวลชนที่ติดตามไปทำข่าว ทรัมป์ ที่สนามกอล์ฟส่วนตัวในรัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยระบุว่าส่งมาจาก “โฆษกทำเนียบขาว” แต่ไม่ชี้ชัดว่าเป็นใคร
เมื่อวันเสาร์ (12) ทรัมป์ พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงแนวคิดทางการเมืองใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุประท้วงที่ชาร์ล็อตต์สวิลล์ โดยกล่าวแค่ว่า “เราขอประณามด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุดต่อการแสดงความเกลียดชัง ความดันทุรัง และความรุนแรงจากหลายๆ ฝ่าย”
ไมค์ ซิกเนอร์ นายกเทศมนตรีเมืองชาร์ล็อตต์สวิลล์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์เมื่อวานนี้ (13) โดยกล่าวชื่นชมตำรวจเกือบ 1,000 นายว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมกล่าวโทษ ทรัมป์ ว่าเป็นต้นเหตุทำให้การแบ่งขั้วทางการเมืองในสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้น หลังลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวเมื่อปี 2016
“ลองนึกถึงตอนที่เขาหาเสียงสิ... มีอยู่ 2 คำที่ถูกพูดถึงซ้ำๆ ซากๆ คือ ลัทธิก่อการร้ายในประเทศ (domestic terrorism) กับความสูงส่งของคนผิวขาว (white supremacy) และนี่คือสิ่งที่เราได้เห็นประจักษ์แก่ตาในช่วงสุดสัปดาห์นี้” ซิกเนอร์ กล่าว
ล่าสุด รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินสายทัวร์ละตินอเมริกา ได้ออกมากล่าวตำหนิกลุ่มขวาจัดเช่นกัน โดยยืนยันวานนี้ (13) ว่าสหรัฐฯ จะ “ไม่อดทนกับความเกลียดชัง และความรุนแรง”
“เราจะไม่อดทนกับความเกลียดชังและความรุนแรง ไม่ว่าจะโดยพวกไวท์ซูพรีเมซิสต์, นีโอนาซี หรือคูคลักซ์แคลนก็ตาม” เพนซ์ตอบคำถามสื่อมวลชนในงานแถลงข่าวที่เมืองการ์ตาเกนา ประเทศโคลอมเบีย
“กลุ่มคนชายขอบอันตรายเหล่านี้ไม่สมควรมีพื้นที่ในสังคมอเมริกัน และในการถกเถียงอภิปรายของชาวอเมริกัน และเราขอประณามพวกเขาด้วยถ้อยคำที่รุนแรงที่สุด”
ตำรวจเวอร์จิเนียยังไม่เผนแรงจูงใจของชายหนุ่มซึ่งขับรถยนต์พุ่งใส่ฝูงชน แต่อัยการสหรัฐฯ และสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ได้เปิดการสอบสวนในประเด็นสิทธิพลเมืองแล้ว
เดเร็ก วีเมอร์ ครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ที่โรงเรียนมัธยมของ ฟิลด์ส ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ WCPO-TV ในเมืองซินซินแนติว่า ตนจำได้ว่าอดีตลูกศิษย์คนนี้ “มีแนวคิดสุดโต่งเรื่องเชื้อชาติ” อีกทั้งยัง “ลุ่มหลงกับลัทธินาซี และอดอล์ฟ ฮิตเลอร์”
“ผมสนิทกับเขา และพยายามใช้ความสนิทสนมชักจูงให้เขาออกห่างจากแนวคิดเหล่านั้น” วีเมอร์ กล่าว พร้อมเผยว่า ฟิลด์ส แสดงท่าทีกระตือรือร้นอย่างมากที่จะสมัครเป็นทหารหลังเรียนจบ
ฟิลด์ส ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน 1 กระทง, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ 3 กระทง และหลบหนีออกจากจุดที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอีก 1 กระทง