รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความหงุดหงิดที่สงครามอัฟกานิสถานยังไม่อาจยุติลงได้เสียที พร้อมเสนอแนะต่อรัฐมนตรีกลาโหม เจมส์ แมตทิส และประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม พล.อ.โจเซฟ ดันฟอร์ด ว่าควรพิจารณาปลด พล.อ.จอห์น นิโคลสัน ผู้บัญชาการกองทหารสหรัฐฯในอัฟกานิสถาน โทษฐานไม่สามารถชนะสงครามนี้ได้ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกาในวันพุธ(2ส.ค.)
ระหว่างการประชุมภายในห้องสถานการณ์เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ทรัมป์ ต้องการให้คณะผู้ช่วยด้านความมั่นคงแห่งชาติของเขามอบข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเรียกว่า “จุดสิ้นสุดของปฏิบัติการทางทหาร” ในประเทศที่สหรัฐฯ ใช้เวลาสู้รบกับพวกตอลิบานมานานกว่า 16 ปีและยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง
พายุแห่งความตึงเครียดกระพือขึ้นกลางที่ประชุม เมื่อทรัมป์บอกว่ารัฐมนตรีกลาโหม เจมส์ แมตทิส และประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม พล.อ.โจเซฟ ดันฟอร์ด ควรพิจารณาปลด พล.อ.จอห์น นิโคลสัน ผู้บัญชาการกองทหารสหรัฐฯในอัฟกานิสถานได้แล้ว โทษฐานที่ไม่สามารถทำให้อเมริกาเอาชนะสงครามนี้ สวนทางกับกระทรวงกลาโหมที่กำลังพิจารณาขยายเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของพลเอกนิโคลสันออกไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เผยว่า เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง สตีฟ แบนนอน หัวหน้านักยุทธศาสตร์ของทรัมป์ ยังเข้ามาร่วมวงชวนทะเลาะกับ เอช.อาร์.แม็กมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงทำเนียบขาวเกี่ยวกับทิศทางนโยบายของสหัฐฯ
เจ้าหน้าที่บางส่วนออกจากห้องประชุมด้วยความรู้สึกงงงวยต่อเสียงคร่ำครวญอันดุเดือดของประธานาธิบดีที่บอกว่ากองทัพปล่อยให้สหรัฐฯ พ่ายแพ้สงคราม
ระหว่างการประชุม ทรัมป์ได้ตำหนิบรรดาที่ปรึกษาทางทหาร และพูดตรงๆ ว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายแพ้สงคราม และแสดงท่าที่ผิดหวังต่อการทำงานของพลเอกแมตทิส ที่เขาบอกว่าให้อำนาจทางทหารไปเมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อหวังจะเห็นความคืบหน้าในอัฟกานิสถาน แต่สุดท้ายสหรัฐฯก็ยังปราชัย
ขณะเดียวกัน เขายังชี้แผนที่ที่แสดงให้เห็นว่าตอลิบานได้พื้นที่เพิ่ม ซึ่ง พล.อ.แมตทิสตอบว่า ที่สหรัฐฯกำลังจะแพ้ก็เพราะขาดยุทธศาสตร์มารับมือ และยุทธศาสตร์ที่เพิ่งวางแผนใหม่ ก็จำเป็นต้องได้รับการลงนามเห็นชอบจากประธานาธิบดี
ทั้งนี้ พวกเจ้าหน้าที่เผยว่า แมตทิส, แม็กมาสเตอร์ และผู้ช่วยระดับสูงรายอื่นๆ ช่วยกันตอบคำถามของทรัมป์ ในแนวทางที่พยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีเห็นชอบยุทธศาสตร์ใหม่
ทำเนียบขาวไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว ขณะที่ทรัมป์นัดหารือกับเหล่าผู้ช่วยระดับสูงอีกครั้งในวันพฤหัสบดี (3 ส.ค.)
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยมอบอำนาจให้ แมตทิส สำหรับประจำการกองกำลังของสหรัฐฯ หากเขาเล็งเห็นว่าเหมาะสม และในความจริงคือรัฐมนตรีกลาโหมรายนี้มีแผนเสริมทหารอเมริกาเข้าไปอีก 4,000 นาย เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน 8,400 นาย ทว่ามันติดปัญหาจากความล่าช้าของแผนยุทธศาสตร์
ทรัมป์ เคยแสดงความเคลือบแคลงต่อการเข้าไปพัวพันสงครามต่างแดนที่ยืดเยื้อหลายสมรภูมิของสหรัฐฯ และไม่ค่อยสนใจส่งทหารเข้าประจำการโดยปราศจากแผนเฉพาะเจาะจง
เจ้าหน้าที่เผยว่าทรัมป์ โต้แย้งว่าสหรัฐฯ ควรเรียกร้องส่วนแบ่งความมั่งคั่งทางแร่มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ของอัฟกานิสถาน แลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือที่มอบแด่รัฐบาลอัฟกัน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อื่นๆ เน้นว่าหากทั่วประเทศยังปราศจากความปลอดภัยซึ่งเชื่อว่าคงอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปี ก็ไม่มีทางเลยที่จะนำพาความอุดมสมบูรณ์ทางแร่ของอัฟกานิสถานเข้าสู่ตลาด