เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่มาเลเซียระบุในวันนี้ (2 ส.ค.) ว่าได้ยึดงาช้างและเกล็ดตัวนิ่มจากแอฟริกามูลค่าเกือบหนึ่งล้านดอลลาร์ (33 ล้านบาท) เน้นย้ำถึงบทบาทของประเทศนี้ในฐานะศูนย์กลางของการลักลอบขนส่งอวัยวะสัตว์หายาก
สินค้าผิดกฎหมายเหล่านี้ถูกพบในปฏิบัติการตรวจค้น 2 ครั้งในอาคารคลังสินค้าของสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ เจ้าหน้าที่ศุลกากร ระบุ
ในการตรวจค้นครั้งแรก ทางการพบงาช้าง 23 กิ่งหนัก 75.7 กิโลกรัมรวมมูลค่ารวม 64,150 ดอลลาร์
“เจ้าหน้าที่ศุลกากรยึดกล่องสองกล่องที่บรรจุงาช้างจำนวนมาก” พุดซี แมน เจ้าหน้าที่ศุลกากรอาวุโส กล่าวในถ้อยแถลง
งาช้างเหล่านี้ถูกส่งมาจากไนจีเรียและสินค้ากลุ่มนี้ถูกลงบันทึกไว้ว่าเป็นอาหาร เขากล่าว
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่พบกระสอบ 6 ถุงที่บรรจุเกล็ดตัวนิ้มหนัก 300.9 กิโลกรัมมูลค่า 900,500 ดอลลาร์ พุดซี กล่าว สินค้ากลุ่มนี้มาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการจับกุมจากกรณีดังกล่าว
งาช้างเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงในบางส่วนของเอเชียโดยเฉพาะจีนและเวียดนามซึ่งงาช้างมีราคาเมื่อกลายเป็นเครื่องประดับตกแต่งและใช้ในยาแผนโบราณ การค้างาช้างทั่วโลกถูกกำหนดให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายนับตั้งแต่ปี 2989
เกล็ดของตัวนิ่ม สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ร้ายแรงที่เรียกกันอีกอย่างว่า “ตัวกินมดหุ้มเกล็ด” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกลักลอบค้าขายมากที่สุดในโลก ถูกล่าอย่างหนักในประเทศเอเชียบางแห่งเพื่อนำไปใช้ในยาแผนโบราณ
เนื้อของตัวนิ่มถูกมองว่าเป็นอาหารชั้นเลิศในจีน และเกล็ดของมันบางครั้งก็ถูกใช้ในการผลิตเมทแอมเฟตามีนแบบผลึก
การตรวจยึดครั้งนี้ตอกย้ำบทบาทของแดนเสือเหลืองในฐานะจุดส่งผ่านสำคัญในการลักลอบค้าสัตว์ป่าทั่วโลก เมื่อเดือนที่แล้วชายชาวเวียดนามคนหนึ่งถูกจับกุมที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์และมีการยึดงาช้างจำนวนมากที่ถูกพบในกระเป๋าเดินทางของเขา
ใครก็ตามที่พบว่ามีความผิดฐานนำสัตว์หายากหรืออวัยวะของพวกเข้ามาในมาเลเซียอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี และปรับเงิน