รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นจะแต่งตั้ง ฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคแอลดีพี ขณะที่อดีตรัฐมนตรีอิตสึโนริ โอโนเดระ จะถูกดึงกลับมาคุมกระทรวงกลาโหมอีกรอบเพื่อช่วยกอบกู้เรตติ้งของรัฐบาล สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานวันนี้ (2 ส.ค.)
อาเบะ เตรียมปรับโฉมคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (3) หลังโพลทุกสำนักบ่งชี้ว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลทรุดฮวบเป็นประวัติการณ์ในรอบ 5 ปี รวมไปถึงการที่พรรคแอลดีพีพ่ายศึกเลือกตั้งสมาชิกสภามหานครโตเกียวอย่างยับเยินเมื่อเดือนที่แล้ว
ผลสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า คะแนนนิยมอาเบะในเวลานี้เหลืออยู่ไม่ถึง 30% โดยมีปัจจัยสำคัญจากข้อครหาว่า นายกฯ มีพฤติกรรมเล่นพรรคเล่นพวก อีกทั้งชาวญี่ปุ่นเริ่มรู้สึกว่ารัฐบาลชุดนี้หยิ่งยโส และมั่นใจในฐานเสียงมากเกินไป
อาเบะ วัย 62 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำญี่ปุ่นสมัยที่สองเมื่อปี 2012 โดยให้สัญญาว่าจะปฏิรูปฟื้นฟูเศรษฐกิจและส่งเสริมการป้องกันประเทศ
ก่อนหน้านี้ เป็นที่คาดหมายว่าอาเบะจะชนะศึกเลือกตั้งสมัยที่ 3 ในเดือน ก.ย.ปี 2018 และกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์แดนอาทิตย์อุทัย แต่ปรากฏการณ์ “ขาลง” ของรัฐบาลในเวลานี้ทำให้ความหวังดังกล่าวเริ่มริบหรี่ อีกทั้งโอกาสที่รัฐบาลของเขาจะแก้ไขรัฐธรรมนูญสันติภาพเพื่อเพิ่มบทบาทของกองกำลังญี่ปุ่นก็ยิ่งเป็นไปได้ยาก
รัฐบาลอาเบะยังเผชิญข่าวอื้อฉาวหลายเรื่อง รวมถึงกรณีของโทโมมิ อินาดะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ซึ่งถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่และการปกปิดข้อมูลสำคัญ จนต้องตัดสินใจยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
การวางตัวโอโนเดระ กลับมาเป็นรัฐมนตรีกลาโหมอีกครั้งชี้ให้เห็นว่า ผู้นำญี่ปุ่นกำลังหันมาใช้วิธี “เพลย์เซฟ” ด้วยการเลือกคนที่มีประสบการณ์ และหันหลังให้พวกนักการเมืองหน้าใหม่ที่อาจก่อเรื่องอื้อฉาวให้รัฐบาล
โอโนเดระ เคยเป็นรัฐมนตรีกลาโหมอยู่เกือบ 2 ปีหลังจากที่อาเบะชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2012
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อาเบะได้มอบหมายให้รัฐมนตรีต่างประเทศ คิชิดะ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการกระทรวงกลาโหมด้วย เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในยามที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญภัยคุกคามด้านความมั่นคง โดยเฉพาะเกาหลีเหนือซึ่งคาดเดาพฤติกรรมไม่ได้
สำหรับ คิชิดะ นั้นคาดว่าจะได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนโยบายของพรรคแอลดีพี ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ทาโร อาโสะ และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ฮิโรชิเงะ เซโกะ จะยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามเดิม
โยชิฮิเดะ สุงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงต่อสื่อมวลชนวันนี้ (2) ว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดมีวัตถุประสงค์ “เพื่อเร่งรัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ‘อาเบะโนมิกส์’ ซึ่งจะช่วยปฏิรูปฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้กลับมาเข้มแข็ง”