รอยเตอร์/MGR Online - กลุ่มสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมนไรต์วอตช์” ในวันอังคาร (1 ส.ค.) อ้างผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยัน “โกตี๋” นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำคนเสื้อแดง ถูกลักพาตัวในลาว พร้อมเล่านาทีถูกกลุ่มชายชุดดำอาวุธครบมือบุกอุ้มขึ้นรถ และเรียกร้องเจ้าหน้าที่ในไทย-ลาว สืบสวนการหายตัวไปของแกนนำคนเสื้อแดงรายนี้
รอยเตอร์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ไทย ระบุว่า นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลหลายรัฐบาลที่นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เข้าไปหลบซ่อนตัวในประเทศลาวตั้งแต่ปี 2014
สื่อแห่งนี้รายงานด้วยว่า เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เขาให้สัมภาษณ์กับรายการ Thais Voice ของ นายจอม เพชรประดับ ในสหรัฐฯ ซึ่งออกอากาศทางยูทูป เปิดเผยว่า กำลังฝึกฝนนักรบพลเรือนเพื่อโค่นรัฐบาลทหารของไทย
เบื้องต้นมีข่าวลือบนสื่อสังคมออนไลน์ว่าผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอาญา มาตรา 112 และคดีก่อการร้ายรายนี้ ถูกอุ้มในเขต สปป.ลาว
ในวันอังคาร (1 ส.ค.) กลุ่มฮิวแมนไรต์วอตช์ ระบุในถ้อยแถลงยืนยันว่านายวุฒิพงศ์ถูกจู่โจมในกรุงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว ในตอนเช้าวันเสาร์ (29 ก.ค.) โดยกลุ่มชายชุดดำติดอาวุธราว 10 คน ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถและขับพาออกไป ส่วนภรรยาและเพื่อนๆ ถูกทำร้ายและช็อตด้วยปืนไฟฟ้า ทิ้งไว้ ณ จุดเกิดเหตุ
ฮิวแมนไรต์วอตช์อ้างว่า ข้อมูลดังกล่าวได้มาจากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน จากสื่อมวลชนไทย และจากแหล่งข่าวของพวกเขาเอง ซึ่งต่างรายงานว่านายวุฒิพงศ์ถูกอุ้ม
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่ยืนยันคำกล่าวอ้างนี้ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อขอข้อเท็จจริงจากนายวุฒิพงศ์ และภรรยา ได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ในลาวปฏิเสธแสดงความคิดเห็น
แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรต์วอตช์ กล่าวว่า “เหตุลักพาตัวนายวุฒิพงศ์อันน่าตะตกตะลึงโดยกลุ่มชายติดอาวุธในกรุงเวียงจันทน์ จำเป็นต้องได้รับการสืบสวนอย่างสมบูรณ์ มันไม่ควรถูกปฏิบัติด้วยความเงียบงำหรือซุกไว้ใต้พรม”
รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า รัฐบาลทหารของไทยชี้แจงว่า ไม่ทราบเรื่องเกี่ยวกับการหายตัวของนายวุฒิพงศ์ ขณะที่ไทยพยายามกดดันลาวให้ส่งตัวนายวุฒิพงศ์ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับประเทศ พร้อมกับผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆ ซึ่งหลบหนีข้อกล่าวหาหมิ่นสถาบันฯ อยู่ในต่างแดน
ในขณะที่รัฐบาลทหารปฏิเสธไม่รับรู้ถึงการหายตัวไปของเขา พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันอังคาร (1 ส.ค.) ว่านายวุฒิพงศ์อาจจัดฉากการหายตัวไปเพื่อหวังสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของคณะรัฐประหาร