รอยเตอร์ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ (26 ก.ค.) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม และบอกว่าจะเริ่มลดระดับการเข้าถือครองพันธบัตรในไม่ช้านี้ ในสัญญาณที่แสดงถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจอเมริกา
เฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเป้าหมาย 1.00 เปอร์เซ็นต์ ถึง 1.25 เปอร์เซ็นต์ พร้อมบอกว่าจะค่อยๆ กระชับนโยบายทางการเงินอย่างช้าๆ หลังปรับขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 1.0 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2015
ในถ้อยแถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุม 2 วัน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตในระดับปานกลางและการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง แต่เน้นย้ำว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมและดัชนีราคาผู้บริโภคลดลง พร้อมบอกว่าพวกเขาจะจับตาแนวโน้มของราคาอย่างระมัดระวัง
“คณะกรรมการคาดหมายว่าจะเริ่มดำเนินการโปรแกรมงบดุลตามปกติอีกไม่นานนี้” เฟดระบุ พร้อมคาดหมายว่าจะมีการเปิดเผยแผนการอย่างคร่าวๆในเดือนมิถุนายน
หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0 เปอร์เซ็นต์ เพื่อต่อสู้กับวิกฤตการเงินและภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงปี 2007-2009 เฟดได้ปั๊มเงิน 3 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่เศรษฐกิจ ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตร เพื่อกดอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ ส่งผลให้งบดุลของเฟดพอกพูนทะลุ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
การผ่อนคลายงบดุลจะถือเป็นจุดจบของเครื่องมือที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงจากสมาชิกรีพับลิกันในสภาคองเกรส ขณะที่พวกนักวิจัยของเฟดสรุปว่าโครงการเข้าซื้อพันธบัตรช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดระบุว่าธนาคารกลางแห่งนี้จะใช้การเข้าซื้อพันธบัตรอีกครั้งหากพบว่าเศรษฐกิจดิ่งลงสู่หุบเหว
ตัวเลขการจ้างงานที่มั่นคง ผลักให้อัตราคนว่างงานสหรัฐฯลดลงเหลือ 4.3 เปอร์เซ็นต์ ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 16 ปี อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดกังวลว่าการเข้มแข็งของตลาดแรงงานอาจผลักให้อัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นสูงเกินไป
ก่อนหน้านี้ เฟด เคยส่งสัญญาณว่าจะเริ่มต้นลดการถือครองตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ในปีนี้ ขณะที่โพลที่จัดทำโดยรอยเตอร์ พบว่าพวกนักเศรษฐศาสตร์คาดหมายว่าจะมีการแถลงเรื่องดังกล่าวในเดือนกันยายน
ในขณะเดียวกัน ภาวะชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ ได้ก่อความกังวลแก่เจ้าหน้าที่เฟดบางส่วน ซึ่งเคยวิตกว่าตัวเลขเงินเฟ้ออาจอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 5 ปีของทางธนาคาร โดยจากมาตรวัดของเฟด พบว่าตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 1.4 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจากระดับ 1.8 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกุมภาพันธ์
.