รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตของอาคารเก่าแก่ขนาด 4 ชั้นย่านชานเมืองมุมไบที่เกิดถล่มลงมาเมื่อวาน (25 ก.ค.) มีจำนวน 17 รายแล้ว รวมไปถึงทารก นายกเทศมนตรีเมืองยอมรับตึกที่เกิดปัญหาไม่ได้อยู่ในรายชื่อ
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (26 ก.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมุมไบแถลงในวันพุธ (26) แถลงยอดตัวเลขผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วงข้ามคืน ล่าสุดอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 17 รายแล้ว
สื่ออินเดีย ไทม์ส์ออฟอินเดียรายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่ถูกตึกถล่มทับนั้นมีเด็กทารกรวม 2 รายรวมอยู่ในนั้น
ทั้งนี้ พบว่าที่ผ่านมาหน่วยกู้ภัยอินเดียเร่งทำงานไม่หยุด พยายามนำซากปรักหักพังของอาคารเก่าแก่ออกเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต ที่อาจยังคงติดอยู่ด้านล่าง
อาคารขนาด 4 ชั้นหลังนี้มีอายุร่วม 40 ปี เป็นสถานที่ตั้งของสถานเนิร์สซิงโฮมบริเวณชั้น 1 และในแต่ละชั้นมีครอบครัวราว 3-4 ครอบครัวพักอาศัย ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกาธโคปาร์ (Ghatkopar) ชานเมืองมุมไบ แหล่งศูนย์กลางไอทีของอินเดีย
จากข้อมูลของไทม์สออฟอินเดียพบว่า ในส่วนของเนิร์สซิงโฮม หรือที่เรียกว่า สถานดูแลหญิงตั้งครรภ์ (maternity home) ที่มีซูนิล ชิทาพ (Sunil Shitap) ผู้ที่มีอิทธิพลกว้างขวางในพื้นที่เป็นเจ้าของ โดยพยานชี้ว่าสถานดูแลหญิงตั้งครรภ์แห่งนี้มีการปรับปรุงอย่างมโหฬาร “ซึ่งผิดกฎหมาย” และนำมาสู่การถล่มของตัวอาคาร
ในขณะที่นายกเทศมนตรีนครมุมไบ วิชวานาธ มหาเดชวาร์ (Vishwanath Mahadeshwar) ยอมรับกลางงานแถลงข่าวในวันอังคาร (25) ว่า “อาคารหลังดังกล่าวไม่ได้อยู่ในรายชื่อของอาคารที่ต้องรับการปรับปรุง” และกล่าวว่า “ทางเราจะเปิดการสอบสวนว่า ตึกหลังนี้พังลงมาเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างหรือไม่”
ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยยังคงดำเนินต่อไปไม่หยุดสภาพฝนตกในวันพุธ (26 ก.ค.)
รอยเตอร์รายงานว่า รัฐมนตรีการเคหะรัฐมหาราษฏระ ปรากาช เมห์ตา(Prakash Mehta) แถลงถึงโศกนาฎกรรมตึกมุมไบถล่มว่า “มีการซ่อมแซมปรับปรุงเกิดขึ้นในส่วนชั้นล่างของอาคารที่ถูกใช้เป็นโรงพยาบาล”