อินดิเพนเดนท์ - องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ขึ้นเชื่อด้านการส่งจรวดขึ้นสู่อวกาศอย่างรวดเร็ว แต่ในอนาคตองค์กรแห่งนี้อาจช่วยคุณเดินทางสู่เป้าหมายเร็วขึ้น ด้วยเครื่องบินพาณิชย์ความเร็วเหนือเสียง (ซูเปอร์โซนิก) ที่เงียบกว่าเดิม
สื่อมวลชนต่างประเทศระบุว่า นาซากำลังคิดค้นเครื่องบินใหม่ บางส่วนตั้งฉายาให้ว่า “Concorde 2 (คองคอร์ด 2)” ที่อาจช่วยคลี่คลายปัญหาโซนิกบูม (เสียงที่เกี่ยวข้องกับคลื่นกระแทก หรือช็อกเวฟ อันเกิดขึ้นจากการที่แหล่งกำเนิดเสียงเคลื่อนที่ในอากาศด้วยอัตราเร็วที่มากกว่าความเร็วเสียง) และเพิ่มความรวดเร็วของการเดินทางไปยังต่างแดนได้อย่างมากมาย
ถ้าประสบความสำเร็จ เครื่องบินเร็วเหนือเสียงจะสามารถบินจากนิวยอร์กไปยังลอนดอน ภายในเวลาแค่ 3 ชั่วโมง เช่นเดียวกับจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางของเส้นทางบินอื่นๆ เมื่อมันถูกใช้อย่างกว้างขวาง
จนถึงตอนนี้ พวกเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงยังประสบปัญหาโซนิกบูม ในนั้นรวมถึงคองคอร์ดรุ่นดั้งเดิม ซึ่งเกิดขึ้นตอนที่เครื่องบินเคลื่อนที่ในอากาศในอัตราที่มากกว่าความเร็วเสียง
เสียงโซนิกบูม ก่อปัญหาแก่ผู้คนที่อยู่บนภาคพื้น ก่อความปั่นป่วนแก่ปศุสัตว์ หรือแม้แต่สร้างความเสียหายทางกายภาพแก่วัตถุหรือบ้านพักอาศัยที่อยู่เบื้องล่าง ซึ่งผลกระทบดังกล่าวทำให้สภาคองเกรสออกคำสั่งห้ามใช้เครื่องบินเร็วเหนือเสียงเหนือแผ่นดินสหรัฐฯ การตัดสินใจที่โยนความรับผิดชอบบางส่วนใส่ คองคอร์ด ฐานไม่มีแผนที่ใช้การได้จริงในทางพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้น นาซาประสบความสำเร็จในการทดสอบเทคโนโลยีในอุโมงค์ลม และตอนนี้เชื่อว่ามันน่าจะสามารถนำมันไปใช้ด้านพาณิชย์ได้ โดยนาซาหวังว่าการลดเสียงโซนิกบูม น่าจะช่วยให้ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์ หันมาสนใจผลิตเครื่องบินซูเปอร์โซนิกกันอีกครั้ง
เครื่องบินจะบินในระดับความสูง 55,000 ฟุต สูงกว่าระดับปกติของเครื่องบินทั่วไปอย่างมาก ทำให้ระดับเสียงเหลือเพียงแค่ 60 เดซิเบล พอๆ กับเสียงของรถยนต์แล่นบนมอเตอร์เวย์หรือในร้านอาหารที่พลุกพล่าน ในขณะที่ คองคอร์ด มีระดับเสียงราวๆ 90 เดซิเบล
“ตอนนี้ระดับเสียงลดลงสู่ระดับที่เคยได้รับความยินยอมจากประชาชนทั่วไป มันเป็นบางอย่างที่ยอมรับได้” ปีเตอร์ โคเอน หนึ่งในทีมวิจัยซูเปอร์โซนิกทางพาณิชย์ของนาซาระบุ ทั้งนี้หากมันได้รับความเห็นชอบ ทีมงานหวังว่าจะทดสอบเวอร์ชันเต็มของเครื่องบินพาณิชย์เร็วเหนือเสียงภายในปี 2022