ชาวสีม่วงเฮ! อังกฤษผ่อนปรน “กฎการบริจาคเลือด” สำหรับเกย์

รอยเตอร์ - ผู้ชายชาวเกย์และไบเซ็กชวลจะสามารถบริจาคเลือดได้หลังจาก 3 เดือนของการมีเพศสัมพันธ์แทนที่ 12 เดือน รัฐบาลอังกฤษประกาศในฐานะส่วนหนึ่งของปฏิรูปกฎหมายเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล และคนข้ามเพศ (แอลจีบีที)

ปัจจุบันผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายถูกห้ามไม่ให้บริจาคเลือดเป็นเวลาหนึ่งปีภายหลังการมีเพศสัมพันธ์สัมพันธ์ครั้งล่าสุดของพวกเขาเพื่อที่จะลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อเอชไอวี ไวรัสต้นตอของโรคเอดส์

รัฐบาลซึ่งจะบังคับใช้การเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นปี 2018 เป็นต้นไป ระบุว่า การตัดสินใจเพื่อผ่อนปรนช่วยเวลาการบริจาคนี้มีพื้นฐานมาจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดและความก้าวหน้าทางการแพทย์และอาจเพิ่มการบริจาคเลือดทั่วประเทศ

“รัฐบาลนี้มีความตั้งใจที่จะสร้างสังคมแบบครอบคลุมที่เป็นประโยชน์แก่ทุกคน ไม่ว่าเพศหรือรสนิยมของพวกเขาจะเป็นอะไรและเรากำลังก้าวเดินไปข้างหน้า” จัสติน กรีนนิง รัฐมนตรีกระทรวงสตรีและควาเท่าเทียม ระบุในถ้อยแถลง

อีธาน สไปบีย์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มรณรงค์ FreedomToDonate กล่าวในถ้อยแถลงว่า ความเคลื่อนไหวนี้ “นับเป็นนโยบายการบริจาคเลือดที่ก้าวนำโลกสำหรับผู้ชายชาวเกย์และไบเซ็กชวลรวมถึงกลุ่มอื่นๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกจำกัด

กรีนนิงยังเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายรับรองเพศ (Gender Recognition Act) เพื่ออนุญาตให้สามารถทำการผ่าตัดแปลงเพศได้โดยไม่ต้องผ่านการวินิจฉัยหาความผิดปกติเกี่ยวกับอัตลักษณ์ทางเพศ ภาวะสุขภาพทางจิตที่อัตลักษณ์ทางเพศของบางคนไม่ตรงกับร่างกายของพวกเขา

นอกจากการวินิจฉัยทางการแพทย์แล้ว คนข้ามเพศยังต้องพิสูจน์ให้เห็นด้วยว่า พวกเขากำลังเปลี่ยนแปลงเป็นเวลา 2 ปีก่อนที่พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ

กลุ่มทนายแอลจีบีที Stonewall ระบุว่า กฎหมายปัจจุบันมีการก้าวก่ายและกำลังลดคุณค่าและจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูป

“มันมีความจำเป็นที่การปฏิรูปนี้ต้องลบข้อกำหนดที่จะต้องมีหลักฐานทางการแพทย์และคณะกรรมการสัมภาษณ์ และอนุญาตให้คนข้ามเพศทุกคนมีเพศที่ได้รับการรับรองทางกฎหมายผ่านกระบวนการของรัฐเพียงอย่างเดียว” ซูซานนา ฮอพวูด สมาชิกของกลุ่ม Stonewall Trans Advisory Group กล่าว

หนังสือตัวอย่างเกี่ยวกับกฎหมายรับรองเพศจะถูกตีพิมพ์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง รัฐบาลระบุ