xs
xsm
sm
md
lg

อเมริกาแซงก์ชันเตหะรานรอบใหม่อีก หลังรับรองอิหร่านทำตามดีลนิวเคลียร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ขณะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก เมื่อวันจันทร์ (17 ก.ค.)  ทั้งนี้หลังจากสหรัฐฯประกาศมาตรการลงโทษคว่ำบาตรครั้งใหม่ล่าสุด ซารีฟได้แถลงว่าการกระทำเช่นนี้ของวอชิงตันทำให้บรรยากาศเป็นพิษและละเมิดเจตนารมณ์ของข้อตกลงนิวเคลียร์
เอเจนซีส์ - อิหร่านขู่แซงก์ชันกลับ หลังอเมริกาประกาศมาตรการลงโทษเพิ่มเติมครั้งใหม่ ทั้งที่เพิ่งออกคำแถลงรับรองว่า เตหะรานปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามกับ 6 มหาอำนาจโลกเมื่อสองปีที่แล้ว

กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านออกคำแถลงเมื่อวันอังคาร (18 ก.ค.) ว่า มาตรการลงโทษชุดใหม่ที่อเมริกาออกมาในวันเดียวกันนั้นไร้เหตุผลและผิดกฎหมาย และว่า เตหะรานจะตอบโต้ด้วยการออกมาตรการลงโทษกับพลเมืองและนิติบุคคลอเมริกันที่ดำเนินมาตรการต่อต้านพลเมืองและประเทศมุสลิมในตะวันออกกลาง

จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ยังให้สัมภาษณ์กับซีบีเอสนิวส์ว่า มาตรการลงโทษล่าสุดของวอชิงตันทำให้บรรยากาศเป็นพิษและละเมิดเจตนารมณ์ของข้อตกลงนิวเคลียร์

ซารีฟเสริมว่า จะร้องขอในที่ประชุมระหว่างอิหร่านกับมหาอำนาจ 5+1 ซึ่งได้แก่ 5 ชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐฯ บวกกับอีก 1 มหาอำนาจ คือ เยอรมนี ณ กรุงเวียนนาวันศุกร์ (21) นี้ ให้ทบทวนข้อตกลงนิวเคลียร์ที่จัดทำกันไว้ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯล้มเหลวไม่ได้ยกเลิกมาตรการแซงก์ชันต่ออิหร่านตามที่ข้อตกลงระบุ

รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านสำทับว่า เขาไม่ได้มีการติดต่อกับเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเรื่องนี้ตรงกันข้ามกับ จอห์น เคร์รี เจ้ากระทรวงของสหรัฐฯคนที่แล้ว ที่เป็นคู่เจรจาของตนและนำไปสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งประวัติศาสตร์

ไม่เพียงเท่านี้ ทางด้านรัฐสภาอิหร่านยังลงมติในวันเดียวกัน รับรองการตั้งกองทุนพิเศษสำหรับโครงการขีปนาวุธและกองทัพ “คุดส์” ซึ่งเป็นกองกำลังพิเศษปฏิบัติการนอกประเทศของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม ที่อเมริกากล่าวหาว่า ปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในตะวันออกกลาง

สถานการณ์ตึงเครียดครั้งนี้บังเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ถูกบีบให้ต้องถอยออกมาจากคำมั่นสัญญาช่วงหาเสียงที่ว่าจะยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์มหาอำนาจ 5+1 กับอิหร่าน

ถึงแม้เคยโจมตีว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา รวมทั้งกล่าวหาว่า อิหร่านยังคงให้การสนับสนุนลัทธิก่อการร้ายในตะวันออกกลาง ทว่า เมื่อวันจันทร์ (17) ทรัมป์ต้องออกคำแถลงรับรองว่า เตหะรานยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งสาระสำคัญคือพวกมหาอำนาจจะยอมผ่อนคลายมาตรการลงโทษ เพื่อแลกกับการที่เตหะรานจำกัดความสามารถของตัวเองในการผลิตวัสดุสำหรับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ขณะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก เมื่อวันจันทร์ (17 ก.ค.)  ทั้งนี้หลังจากสหรัฐฯประกาศมาตรการลงโทษคว่ำบาตรครั้งใหม่ล่าสุด ซารีฟได้แถลงว่าการกระทำเช่นนี้ของวอชิงตันทำให้บรรยากาศเป็นพิษและละเมิดเจตนารมณ์ของข้อตกลงนิวเคลียร์
ทั้งนี้ มีรายงานว่าพวกเจ้าหน้าที่อาวุโสของคณะบริหารทรัมป์ มีความเห็นแตกกันเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งซึ่งประกอบด้วย ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกลาโหม จิม แมตทิส และที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ เอช อาร์ แมคมาสเตอร์ เสนอให้ทรัมป์รักษาสถานะเดิมเอาไว้ อย่างน้อยก็จนกว่ากระบวนการทบทวนนโยบายอิหร่านของสหรัฐฯ จะเสร็จสิ้นและประกาศนโยบายใหม่ในเรื่องนี้ออกมา แต่อีกฝ่ายหนึ่งที่ประกอบด้วย สตีฟ แบนนอน หัวหน้านักยุทธศาสตร์ทำเนียบขาว และ ไมก์ พอมเพโอ ผู้อำนวยการซีไอเอ รบเร้าให้ทรัมป์หันมาใช้ไม้แข็งกับอิหร่านได้แล้ว ซึ่งในที่สุดทรัมป์เลือกที่จะทำตามฝ่ายแรก

กระนั้น คำแถลงของทรัมป์ยังคงข้อสังเกตอิหร่านละเมิดเจตนารมณ์ของข้อตกลงอย่างไม่ต้องสงสัย

ต่อจากนั้นในวันอังคาร (18) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้แถลงใช้มาตรการลงโทษครั้งใหม่ที่มิใช่เนื่องจากเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ต่อบุคคลและนิติบุคคลราว 18 รายของอิหร่าน โดยทางกระทรวงแจงว่า วอชิงตันยังคงกังวลอย่างมากกับกิจกรรมอันตรายของอิหร่านทั่วตะวันออกกลาง ซึ่งบ่อนทำลายเสถียรภาพ ความมั่นคง และความมั่งคั่งของภูมิภาค

คำแถลงยังอ้างถึงการที่อิหร่านสนับสนุนกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน, กลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์, รัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดชองซีเรีย และกบฏฮูตีในเยเมนที่กำลังรบกับกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียและได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา

นอกจากนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังกล่าวหากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านมีพฤติกรรมยั่วยุอันตรายรอบๆ เรือรบอเมริกันในอ่าวเปอร์เซีย จนเรือรบอเมริกันต้องยิงขึ้นฟ้าเตือนหลายครั้ง

ทางด้าน สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แถลงว่า มาตรการแซงก์ชันครั้งใหม่นี้พุ่งเป้าที่จะสกัดอิหร่านไม่ให้สามารถจัดซื้ออาวุธยุทธภัณฑ์ขั้นสูง เช่น เรือโจมตีเร็ว เครื่องบินไร้คนขับ การโจรกรรมโปรแกรมซอฟต์แวร์ของอเมริกาและตะวันตกเพื่อขายต่อให้รัฐบาลอิหร่าน และยังเป็นการส่งสัญญาณว่า อเมริกาไม่สามารถและจะไม่ยอมรับพฤติกรรมยั่วยุและก่อกวนของอิหร่าน

นอกจากนั้น วอชิงตันยังแสดงความกังวลต่อชะตากรรมของซีเย่ว์ หวัง นักวิจัยอเมริกันเชื้อสายจีน วัย 37 ปี จากมหาวิทยาลัยปรินซตัน ที่ถูกอิหร่านตัดสินจำคุก 10 ปี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศเตหะรานกล่าวว่า ยินดีหารือบนหลักการของสิทธิมนุษยชน แต่สำทับว่า ศาลอิหร่านมีอิสระในการวินิจฉัยคดีอย่างสมบูรณ์


กำลังโหลดความคิดเห็น