รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ แห่งออสเตรเลีย กล่าวประณามเหตุการณ์ตำรวจสหรัฐฯ ในเมืองมินนิอาโปลิสยิงสาวออสซีดับคาถนนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเป็นคดี “สะเทือนขวัญ” และ “ยากจะที่เข้าใจได้” พร้อมยืนยันว่าทูตแดนจิงโจ้กำลังเรียกร้องให้สหรัฐฯ ออกมาชี้แจงเรื่องนี้
เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) สำนักงานวิเคราะห์อาชญากรรมแห่งรัฐมินนิโซตาได้ออกมาแถลงยืนยันรายละเอียดที่สื่อต่างๆ นำเสนอเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรม น.ส.จัสติน ดามอนด์ วัย 40 ปี ชาวนครซิดนีย์ พร้อมทั้งยืนยันตัวตนตำรวจ 2 นายที่เกี่ยวข้องกับคดีสังหารเมื่อวันที่ 15 ก.ค.
ดามอนด์ เสียชีวิตจากคมกระสุนเพียงนัดเดียวซึ่งยิงออกมาจากหน้าต่างของรถสายตรวจ หลังจากตำรวจ 2 นายได้รับแจ้งเหตุจากหญิงสาวรายนี้ว่าอาจเกิดเหตุโจมตีขึ้นในชุมชนของเธอ
นายกฯ เทิร์นบูลล์ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อโทรทัศน์เช้าวันนี้ (19) ว่า ตนและกงสุลใหญ่ประจำนครชิคาโกกำลังเรียกร้องขอคำอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดนอนวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ แต่กลับเป็นฝ่ายถูกยิงเสียเอง” ผู้นำแดนจิงโจ้กล่าว
“มันเป็นเหตุฆาตกรรมที่น่าสะเทือนขวัญ และแน่นอนว่ารัฐบาลจะเป็นตัวแทนของญาติเรียกร้องขอคำตอบจากสหรัฐฯ”
สำนักงานวิเคราะห์อาชญากรรมแห่งรัฐมินนิโซตา ระบุว่า พวกเขากำลังขอดูกล้องวงจรปิดของเอกชน ซึ่งอาจมีภาพเหตุการณ์ขณะที่ตำรวจ 2 นาย คือ โมฮาเหม็ด นูร์ และ แมทธิว แฮร์ริตี ขับรถสายตรวจเข้าไปยังถนนที่เกิดเหตุ เพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัย
แฮร์ริตี ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า เมื่อตนขับรถสายตรวจไปถึงที่เกิดเหตุก็ได้ยินเสียงดังสนั่นขึ้นซึ่งทำให้รู้สึกตกใจ และทันใดนั้นเอง ดามอนด์ ก็วิ่งตรงมาที่ฝั่งคนขับ ทำให้ นูร์ ซึ่งนั่งข้างๆ ตัดสินใจชักปืนออกมายิงผ่านกระจกด้านคนขับไปถูกบริเวณช่องท้องของเธอ
สำนักงานระบุว่า นูร์ ซึ่งทำงานกับตำรวจมาแล้ว 21 เดือน และ แฮร์ริตี ซึ่งเป็นอดีตทหารผ่านศึก ได้ถูกสั่งพักงานชั่วคราว
พนักงานสอบสวนรัฐมินนิโซตาได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบปากคำ แฮร์ริตี เมื่อวานนี้ (18) ขณะที่ นูร์ ยังคงปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล และทนายของเขาก็ยังไม่ระบุว่าจะยินยอมให้สอบปากคำได้เมื่อใด
ทอม พลังเก็ตต์ ทนายของ นูร์ ออกคำแถลงเมื่อวานนี้ (18) ว่าลูกความของเขาขอส่งความเสียใจไปยังครอบครัวของดามอนด์
เบ็ตซี ฮอดจ์ส นายกเทศมนตรีเมืองมินนิอาโปลิส และสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกันแห่งรัฐมินนิโซตา ตั้งคำถามว่า เหตุใดตำรวจทั้ง 2 นายจึงไม่ติดกล้องบนร่างกาย และไม่เปิดกล้องหน้ารถขณะเกิดเหตุ
คีธ เอลลิสัน ส.ส.พรรคเดโมแครจากรัฐมินนิโซตา ระบุว่า การตายของดามอนด์ สะท้อนให้เห็นถึง “ปัญหาที่เป็นระบบ” ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“ต้องยอมรับความจริงกันเสียทีว่า มีคนที่ปราศจากอาวุธมากมายถูกฆ่าโดยตำรวจที่เคยให้สัตย์สาบานว่าจะปกป้องชีวิตพวกเรา... การตายของ จัสติน ทำให้เราตระหนักว่า การวิสามัญฯ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะบางพื้นที่ หรือกับคนบางกลุ่มเท่านั้น”
หนังสือพิมพ์มินนิอาโปลิสสตาร์ทริบูน รายงานว่า ดามอนด์ซึ่งมีชื่อเดิมว่า จัสติน รุสซิก (Justine Ruszczyk) ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของคู่หมั้นคือ ดอน ดามอนด์ โดยทั้งคู่มีกำหนดเข้าพิธีแต่งงานในเดือน ส.ค.
เธอยังเป็นครูสอนโยคะ และเป็นเจ้าของบริษัทอบรมการฝึกสมาธิและแนะแนวการดำเนินชีวิตแห่งหนึ่ง