เอเอฟพี – วันนี้(6 ก.ค) เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 6.5 แมกนิจูดบริเวณตอนกลางของฟิลิปปินส์ เกาะเลย์เต มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายหลังโรงแรมขนาด 3 ชั้นถล่ม คาดอาจมีคนติดอยู่ด้านในอย่างน้อย 5 ราย ไม่มีรายงานเตือนสึนามิ
เอเอฟพีรายงานวันนี้(6 ก.ค)ว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยฟิลิปปินส์รุดไปยังที่เกิดเหตุตึกถล่มในเมืองคานากา (Kananga) บนเกาะเลย์เต(Leyte) ตอนกลางของฟิลิปปินส์ในวันพฤหัสบดี(6 ก.ค) หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 6.5 แมกนิจูด
ล่าสุดพบทางหน่วยกู้ภัยสามารถดึงคนที่ติดออกมาได้อย่างน้อย 6 คนสำเร็จ และมีการเกรงว่า มีจำนวนผู้ที่ยังอยู่ด้านในซากตึกถล่มอีกอย่างน้อย 5 คน เกิดขึ้นที่เมืองคานากา ใกล้ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว รองนายกเทศมนตรี เอลเมอร์ คอดิลลา( Elmer Codilla) แถลง
“ยังคงมีผู้ที่ติดอยู่ด้านใน คาดว่าอย่างน้อย 5 ราย ปฎิบัติการกู้ภัยยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง” รองนายกเทศมนตรีเมืองคานากากล่าว
และเสริมว่า 2 คนจากจำนวนทั้งหมดที่ถูกช่วยออกมาได้ ส่งข้อความทางโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถดึงร่างผู้เสียชีวิตออกมา 1 ราย ส่วนอีก 6 คนที่ถูกช่วยออกมาได้นั้นไม่มีร่องรอยบาดเจ็บ
เอเอฟพีรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายกเทศมนตรี โรเวนา คอลดิลลา(Rowena Codilla)ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ DZBB ถึงรายละเอียดเหตุการณ์อาคารพานิชย์ 3 ชั้นถล่มว่า “ทางเราสามารถค้นพบผู้เสียชีวิต 1 ราย และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอีก 1 รายออกมาได้สำเร็จ”
ในขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย์เต โดมินิโก เปติลลา(Dominico Petilla)แถลงถึงการกู้ภัยว่า “เจ้าหน้าที่กู้ภัย รถพยาบาล และอุปกรณ์หนัก
ทั้งนี้นายกเทศมนตรีคอลลดิลลาชี้ว่า การปฎิบัติงานเป็นไปด้วยความยุ่งยากเนื่องจากเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น และยังขาดเครื่องมือในการเข้ากู้ภัยถูกส่งไปยังเมืองแห่งนี้ที่มีประชากรอาศัยอยู่ 50,000 คน
โดยในตอนแรกเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ให้ข้อมูลว่า ในขณะนี้ยังไม่ทราบตัวเลขแน่นอนของจำนวนคนที่ยังคงติดอยู่ด้านในตึกหลังนี้
เอเอฟพีรายงานว่า อาคารที่เกิดถล่มนั้นก่อสร้างเมื่อ 10 ปีก่อนหน้า โดยในส่วนของด้านบนนั้นเป็นโรงแรม มีร้านค้าบริเวณด้านล่าง อ้างอิงจากข้อมูลของนายกเทศมนตรีเมืองคานากา พบว่าในจุดอื่นๆของเมืองได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ USGS แถลงว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในระดับความลึก 6 ก.ม และไม่มีการเตือนภัยสึนามิออกมาจากศูนย์การเตือนภัยสึนามิแปซิฟิก
ซึ่งรอย ไรโบ(Roy Ribo) เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานชาวนาออกมาให้ความเห็นกับเอเอฟพีถึงโรงแรมที่ถล่มลงมาว่า พบว่าเสียหายเป็นอย่างมาก ที่พร้อมจะถล่มลงมาในขณะที่เขาผ่านไปหลังเกิดเหตุ
“ผมถ่ายภาพไว้ แต่ทว่าดูเหมือนว่ามันพร้อมที่จะถล่มลงมา” ทั้งนี้ไรโบได้หนีออกไปอย่างทันทีจากที่เกิดเหตุโดยขับขึ้นไปบนทางเท้าที่มีรอยแตกเนื่องจากแรงแผ่นดินไหว
ชายผู้นี้กล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในระหว่างที่เขากำลังพบกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นด้านนอกของโรงงานไฟฟ้านอกเมือง ซึ่งได้ชี้ว่า “ปกติจะพ่นควันขาวออกมา แต่ทว่าหลังเกิดแผ่นดินไหว กลับพ่นควันดำ”
ส่วนครูโรงเรียนมัธยมแห่งชาติไรซาล (Rizal National High School) ต้องอพยพเด็กนักเรียนที่ต่างเสียขวัญออกมาด้านนอก โดยครูจากโรงเรียนแห่งนี้กล่าวว่า “เด็กๆพากันตกใจ เสียขวัญ และร้องไห้”
ในขณะที่คุณพ่อ โรมี ซาลาซาร์(Father Romy Salazar)บาทหลวงคาทอลิกประจำโบสถ์ตั้งอยู่ในเมืองจาโร(Jaro) จ.เลย์เต ศูนย์กลางแผ่นดินไหวได้เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า เกิดไฟฟ้าดับ และประชาชนต่างหลบออกมาจากบ้านเรือนที่อาศัย
“ผมอยู่ด้านในของโบสถ์ และผมต้องกอดประตูใหญ่ไว้แน่นเพื่อความปลอดภัย” คุณพ่อ โรมี ซาลาซาร์ แต่อย่างไรก็ตาม บาทหลวงแห่งโบสถ์จาโรกล่าวว่า ไม่พบเห็นความเสียหายอย่างหนักเกิดขึ้นในเมือง
ด้านพนักงานต้อนรับโรงแรม XYZ ได้ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า รู้สึกรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ในเมืองตาโคลบาน( Tacloban) แต่ไม่มีอาคารบ้านเรือนถูกทำลาย
โดยพนักงานต้อนรับกล่าวว่า “มันห่างจากที่นี่ ดังนั้นพวกเรายังคงปลอดภัย”
ในขณะที่พนักงานต้อนรับของโรงแรมอีกแห่งของเมืองนี้ได้กล่าวให้ความเห็นสอดคล้องว่า รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว แต่ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่อาศัยอยู่ในทั่วภูมิภาคที่ส่วนมากประกอบอาชีพการเกษตรและทำประมง ต่างรายงานถึงการรับรู้แรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงของแผ่นดินไหว
หนึ่งในนั้นคือ มาร์ลอน ตาโน( Marlon Tano) ชาวประมงและนักข่าวให้ความเห็นว่า แผ่นดินไหวทำให้เขาล้มคว่ำลงในสวนมะเขือยาวในเมืองบูรัน(Borauen) ซึ่งใกล้กับศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว
ทาโนกล่าวว่า “มันรุนแรงมากจนผมล้มลง” และเสริมต่อว่า “ผมเห็นคนรีบวิ่งออกมาจากรถบัสและมอเตอร์ไซด์ที่อยู่บนกลางถนนไฮเวย์”