เอเจนซีส์ - “วอลโว่ คาร์ กรุ๊ป” ระบุในวันพุธ (5 ก.ค.) ว่ารถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบหรือไม่ก็เป็นไฮบริด ส่งสัญญาณว่าในท้ายที่สุดก็ใกล้ถึงจุดจบของการใช้เครื่องยนต์สันดาปมายาวนานเกือบศตวรรษของวอลโว่
ค่ายรถที่มีฐานอยู่ในโกเตนเบิร์กรายนี้จะยังคงผลิตรถยนต์ Volvo ที่ใช้แต่เครื่องยนต์สันดาปสำหรับรุ่นที่ผลิตออกมาก่อนถึงวันเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม จะมีการนำเสนอรถเหล่านั้นในแบบใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบกับแบบไฮบริดด้วย
แผนนี้ทำให้ Volvo กลายเป็นรายแรกที่มีการกำหนดวันสำหรับการสิ้นสุดของรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเพียงอย่างเดียว ทั้งที่เรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าในรถยนต์เป็นสิ่งที่พูดกันมานานแล้วในอุตสาหกรรมรถยนต์ ขณะที่ค่ายรถ “เทสลา มอเตอร์” เป็นอีกหนึ่งหัวหอกสำคัญที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบตั้งแต่แรกเริ่ม
“การประกาศครั้งนี้เป็นการบ่งบอกถึงจุดจบของรถยนต์ที่ใช้แต่เครื่องยนต์สันดาปเพียงอย่างเดียว” ฮาคาน ซามูเอลสัน ซีอีโอวอลโว่ระบุในคำแถลง
รถยนต์รุ่นใหม่ 5 รุ่น ซึ่งเป็นแบรนด์ Volvo จำนวน 3 รุ่น กับแบรนด์ Polestar จำนวน 2 รุ่น ที่จะเปิดตัวในระหว่างปี 2019-2021 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบทั้งหมด
“รถยนต์ 5 รุ่นนี้จะมีรุ่นเสริมที่เป็นไฮบริดใช้น้ำมันและมีปลั๊ก กับแบบไฮบริด 48 โวลต์เป็นตัวเลือกเสริมในทุกรุ่น นั่นหมายความว่าในอนาคตจะไม่มีรถวอลโว่คันใดที่ไร้ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้า” วอลโว่ระบุ
วอลโว่มีการลงทุนอย่างมากไปกับโรงงานและรถรุ่นใหม่ นับตั้งแต่ถูก Zhejiang Geely Holding Group ซื้อกิจการไปจาก Ford Motor ในปี 2010 และกำลังพยายามสร้างเอกลักษณ์เฉพาะในตลาดรถหรูที่ถูกครองโดย Mercedes-Benz และ BMW
ส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์คือการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยซึ่งจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น รวมไปจนถึงการทำรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
เมื่อเดือนที่แล้ว วอลโว่เพิ่งบอกว่าจะปรับธุรกิจในส่วนของ Polestar ให้แยกออกมาเป็นอีกแบรนด์ โดยจะให้เน้นการทำรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงเพื่อจะแข่งขันกับ Tesla และ Mercedes AMG