เอเอฟพี/MGR ออนไลน์ - เมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯแถลงประกาศ “ยกเลิกคำสั่งห้าม” นำคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปและแท็บเล็ตของผู้โดยสารสายการบินเอทิฮัด จากท่าอากาศยานอาบูดาบี เดินทางเข้าสหรัฐฯ แล้ว หลังถูกบังคับใช้นานร่วม 3 เดือน ด้านบริษัทสายการบินเอทิฮัดแสดงความยินดี และกลายเป็นสายการบินแรกของโลกที่ได้รับการยกเลิกจากคำสั่งแบน
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (3 ก.ค.) ว่า หลังจากที่ 3 เดือนก่อนหน้า สหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งบังคับห้ามนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกใดๆที่ใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือ เป็นต้นว่า คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและอุปกรณ์แท็บเล็ตขึ้นเครื่องในเที่ยวบินตรงจากสนามบิน 10 แห่งทั้งในตุรกี ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ (2) สายการบินเอทิฮัดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลายเป็นสายการบินแรกของโลกที่ได้รับการประกาศถูกนำออกจากลิสต์แบนของกระทรวงมาตุภูมิสหรัฐฯ
เอเอฟพีชี้ว่า ที่มาของการประกาศแบนนั้นมาจากที่แหล่งข่าวกรองสหรัฐฯเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มก่อการร้าย IS อาจซุกระเบิดในไอแพด หรือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กบินเข้าสหรัฐฯ
การยกเลิกเกิดขึ้นจากที่ทางสายการบินเอทิฮัดปรับปรุงระบบมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มีความเข้มงวด อ้างอิงจากแถลงการณ์ของเดวิด ลาแพน (David Lapan) โฆษกกระทรวงมาตุภูมิสหรัฐฯ
“ทางเราขอชื่นชมบริษัทสายการบินเอทิฮัดในความรวดเร็วต่อการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเหล่านี้” และกล่าวต่อว่า “ความพยายามของเอทิฮัดถือเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับทั้งสายการบินสหรัฐฯและสายการบินต่างชาติในการที่จะทำการเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยของตัวเอง” ลาแพนกล่าว
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงมาตุภูมิสหรัฐฯนั้นกล่าวยืนยันว่าผู้โดยสารสายการบินเอทิฮัดที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ จากท่าอากาศยานอาบูดาบีต้องได้รับการตรวจเช็กอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เหล่านี้เพิ่มเติม
ด้านเอทิฮัด เอเวียชัน กรุ๊ปกล่าวผ่านแถลงการณ์ แสดงความยินดีต่อคำสั่งยกเลิกของสหรัฐฯ โดยในแถลงการณ์มีเนื้อความว่า “ทางเรามีความยินดีในการตัดสินใจของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯ ที่ได้ทำการยกเลิกคำสั่งห้ามอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนเที่ยวบินที่เดินทางออกมาจากท่าอากาศยานอาบูดาบีเข้าสู่สหรัฐฯ หลังจากความสำเร็จของมาตรการความปลอดภัยในจุดด่านตรวจพิเศษพรมแดนอเมริกา (Preclearance facility) ประจำท่าอากาศยานอาบูดาบีเกิดขึ้นช่วงก่อนหน้าของวันนี้”
และแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “ผลจากการบังคับใช้ทันที ทำให้ผู้โดยสารของเอทิฮัดสามารถนำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ขึ้นเครื่องในที่เที่ยวบินที่มุ่งสู่อเมริกาได้ เป็นผลมาจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงของสายการบิน”
ในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “เมื่อผู้โดยสารเดินทางถึงสหรัฐฯ บุคคลเหล่านั้นสามารถเดินเข้าสู่อเมริกาในฐานะผู้โดยสารภายในประเทศโดยที่ไม่จำเป็นต้องรอต่อแถวเข้าคิวสำหรับการตรวจโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ อีกครั้ง”
ในแถลงการณ์ยังได้ระบุต่อว่า จุดตรวจพิเศษล่วงหน้าก่อนเข้าสู่อเมริกานั้นอยู่ในบริเวณเทอร์มินัล 3 ของท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ ตม.สหรัฐฯ คอยยืนบริการตรวจผู้โดยสารทุกคนในฮับสนามบินในตะวันออกกลางแห่งนี้ ซึ่งทางเอทิฮัดอ้างว่าจุดตรวจพิเศษนี้เกิดขึ้นเพียงแห่งเดียวเท่านั้นในตะวันออกกลาง
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกเหนือไปจากท่าอากาศยาน 10 แห่งในตุรกี ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการตรวจเข้มในทุกเที่ยวบินที่บินเข้าสู่สหรัฐฯ โดยไม่จำกัดว่าจะมีที่มาจากจุดใดของโลก
ซึ่งก่อนหน้า สหรัฐฯ เคยให้สัญญาจะยกเลิกคำสั่งแบนหากทางบริษัทสายการบินสามารถปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น
และพบว่าอังกฤษได้ออกประกาศคำสั่งห้ามที่คล้ายกับของสหรัฐฯ สำหรับการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวขึ้นเครื่องที่เดินทางมาจาก 6 ประเทศในตะวันออกกลาง ได้แก่ ตุรกี เลบานอน จอร์แดน อียิปต์ ตูนิเซีย และซาอุดีอาระเบีย แต่ไม่รวมไปถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์