เวเนฯ ป่วนหนัก! ฝ่ายต้าน “มาดูโร” ส่ง ฮ.ยิงถล่มกระทรวงมหาดไทย-ทิ้งระเบิดใส่ศาลสูงสุด

รอยเตอร์ - ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเวเนซุเอลาใช้เฮลิคอปเตอร์ตำรวจยิงโจมตีกระทรวงมหาดไทยและศาลสูงสุด เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงวิกฤตการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร กล่าวโทษผู้ก่อเหตุว่าเป็นพวก “ก่อการร้าย” ที่ต้องการทำรัฐประหาร

เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ยิงกระสุน 15 นัดใส่กระทรวงมหาดไทยระหว่างที่กำลังมีกิจกรรมทางสังคม และได้ทิ้งระเบิดมืออีก 4 ลูกใส่ศาลสูงสุดขณะที่ผู้พิพากษากำลังประชุมกันอยู่ ทว่าล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ

“ไม่ว่าช้าหรือเร็ว เราก็จะต้องยึดเฮลิคอปเตอร์กลับคืนมา และจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายต่อสถาบันของประเทศมาลงโทษ” มาดูโรกล่าว

“สิ่งที่พวกเขาทำอาจส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นสิบๆ คน”

กลุ่มฝ่ายค้านได้ลุกฮือก่อจลาจลมานานกว่า 3 เดือนเพื่อขับไล่ มาดูโร วัย 54 ปี ที่พวกเขาประณามว่าเป็น “ผู้นำเผด็จการ” ที่ทำให้เศรษฐกิจของเวเนซุเอลาพังย่อยยับ ขณะที่ในรัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงก็เริ่มปรากฏสัญญาณความไม่พอใจเช่นกัน

การชุมนุมประท้วงที่เริ่มมาตั้งแต่เดือน เม.ย. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 75 ราย และยังมีผู้บาดเจ็บหรือถูกจับกุมอีกหลายร้อยคน

กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไป, หามาตรการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน, ปลดปล่อยแกนนำฝ่ายค้านที่ถูกจำคุก และคืนอำนาจให้แก่สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก ขณะที่ มาดูโร อ้างว่าฝ่ายค้านต้องการก่อรัฐประหาร และถูกยุยงโดยสหรัฐฯ ซึ่งหวังครอบครองแหล่งน้ำมันสำรองของเวเนซุเอลาที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก

รัฐบาลเวเนซุเอลาได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวถูกตำรวจสายงานสืบสวนที่ชื่อ ออสการ์ เปเรซ ขโมยไป โดยนายตำรวจผู้นี้ประกาศตัวเป็นปรปักษ์กับประธานาธิบดี มาดูโร

ในเวลาไล่เลี่ยกับที่ศาลสูงสุดและกระทรวงมหาดไทยถูกโจมตี เปเรซ ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงอินสตาแกรมเป็นภาพตนเองยืนอยู่ท่ามกลางชายติดอาวุธสวมคลุมศีรษะ และประกาศว่ากำลังจะเริ่มปฏิบัติการฟื้นฟูประชาธิปไตย เขาอ้างว่าตนเองเป็นตัวแทนทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนที่ไม่เห็นด้วยกับ “รัฐบาลอาชญากร” พร้อมทั้งเรียกร้องให้ มาดูโร ลาออก และจัดการเลือกตั้งใหม่ทันที

พยานหลายคนระบุว่าได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากย่านใจกลางกรุงการากัส ที่ตั้งของศาลสูงสุด ทำเนียบประธานาธิบดี และหน่วยงานสำคัญๆ ของรัฐบาล

ฝ่ายต่อต้านมาดูโรมองว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นเสมือนศูนย์กลางการกดขี่ของรัฐบาลสังคมนิยม และพวกเขายังชิงชังศาลสูงสุดที่ออกคำพิพากษาเพิ่มอำนาจให้แก่ประธานาธิบดี และลิดรอนอำนาจอันชอบธรรมไปจากรัฐสภาที่ฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากอยู่

มาดูโร ซึ่งก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำเวเนซุเอลาต่อจากอดีตประธานาธิบดีอูโก ชาเบซ ที่ถึงแก่อสัญกรรมไปเมื่อปี 2013 ออกมาข่มขู่วานนี้ (27) ว่าตนและฝ่ายสนับสนุนอาจหันมา “จับอาวุธ” ต่อสู้บ้าง หากฝ่ายค้านคิดจะใช้ความรุนแรงโค่นล้มรัฐบาลสังคมนิยม

“หากสถานการณ์ในเวเนซุเอลาดำดิ่งลงสู่ภาวะจลาจลและความรุนแรง และรัฐบาลปฏิวัติโบลิวาเรียนถูกทำลาย พวกเราจะจับอาวุธสู้ เราจะไม่ยอมแพ้ และอะไรก็ตามที่ไม่อาจได้มาโดยการเลือกตั้ง เราก็จะทำมันด้วยอาวุธ เราจะใช้อาวุธปลดปล่อยบ้านเกิดเมืองนอนของเรา”

มาดูโร พยายามผลักดันให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (Constituent Assembly) ในวันที่ 30 ก.ค.นี้ เพื่อแก้ไขกฎหมายและบั่นทอนอำนาจของสถาบันอื่นๆ ในประเทศ โดยเฉพาะรัฐสภาที่ฝ่ายค้านครองเสียงส่วนใหญ่