เอเยนซีส์ - รายงานของกัปตันเรือสินค้าที่ชูธงฟิลิปปินส์ ระบุว่า เรือรบสหรัฐฯ ที่ถูกเรือสินค้าชนในน่านน้ำญี่ปุ่น จนทำให้มีลูกเรือเสียชีวิต 7 ราย ไม่ยอมตอบสนองต่อสัญญาณเตือนหรือมีการหลบก่อนเกิดการชน
เจ้าหน้าที่สืบสวนของญี่ปุ่นและสหรัฐฯ กำลังค้นหาความจริงว่า เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี USS Fitzgerald ชนกับเรือสินค้า ACX Crystal ที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก บริเวณทางใต้ของอ่าวโตเกียวท่ามกลางอากาศสดใสในช่วงรุ่งสางของวันที่ 17 มิถุนายนได้อย่างไร
รายละเอียดแรกที่ออกมาจากหนึ่งในผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงอย่างกัปตันเรือสินค้า มีการระบุว่า เรือสินค้า ACX Crystal ได้ส่งสัญญาณเตือนด้วยแสงไฟกะพริบ ตอนที่เรือ USS Fitzgerald เข้าสู่เส้นทางเดินเรือที่จะชนกัน
เรือสินค้าได้หักเลี้ยวไปทางขวา เพื่อเลี่ยงการชนกับเรือรบ แต่ก็ยังชนกันในอีก 10 นาทีต่อมา ตอนเวลาประมาณ 01.30 น. อ้างอิงจากรายงานของกัปตันเรือสินค้าที่ส่งให้กับบริษัท Dainichi Investment Corporation ที่เป็นเจ้าของเรือ ซึ่งทางรอยเตอร์ได้เห็นรายงานฉบับดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ และทางรอยเตอร์ก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบรายงานดังกล่าวได้อย่างอิสระ
การชนกันดังกล่าวได้ทำให้เรือรบสหรัฐฯ ได้รับความเสียหาย ลูกเรือเสียชีวิต 7 ราย ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของกองทัพเรือสหรัฐฯ นับตั้งแต่เหตุการณ์เรือ USS Cole โดนบอมบ์ในเยเมนเมื่อปี 2000
โฆษกของกองเรือที่ 7 กองทัพสหรัฐฯ ในโยโกสุกะ ระบุว่า เขาไม่สามารถแสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการสืบสวนที่กำลังดำเนินการอยู่
เหตุการณ์นี้ทำให้มีการสืบสวนถึง 6 ชุด ในจำนวนนั้นมี 2 ชุดที่เป็นการสืบสวนภายในของกองทัพสหรัฐฯ กับอีกหนึ่งการสืบสวนที่ดำเนินการโดยกองกำลังยามฝั่งสหรัฐฯ ในนามของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติ, คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของญี่ปุ่น, กองกำลังยามฝั่งของญี่ปุ่น, รวมถึงรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่เข้ามาสืบสวนด้วยเช่นกัน
การสืบสวนเหล่านี้จะมีการตรวจสอบคำให้การของพยานและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อจะระบุให้ได้ว่าเรือพิฆาตติดขีปนาวุธที่มีเรดาร์ซับซ้อน ถูกชนโดยเรือสินค้าที่มีขนาดใหญ่กว่าถึง 3 เท่าได้อย่างไร