เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - มีผู้เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า 150 คนในปากีสถานวันอาทิตย์ (25 มิ.ย.) เมื่อรถบรรทุกน้ำมันที่ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำคันหนึ่งเกิดระเบิดไฟลุกท่วมและแผ่ลามอย่างรวดเร็ว คลอกชาวบ้านจำนวนมากที่พากันกรูเข้าไปตักน้ำมันที่รั่วไหลออกจากตัวรถโดยไม่ฟังเสียงเตือนให้ถอยห่างออกมา ทั้งนี้ตามปากคำของพวกเจ้าหน้าที่และผู้เห็นเหตุการณ์
เหตุการณ์สยดสยองในช่วงเช้าตรู่คราวนี้ เกิดขึ้นมาไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่ปากีสถานจะเริ่มต้นเฉลิมฉลองวันตรุษอีดิลฟิฏรี ระลึกวาระสิ้นสุดของการถือศีลอดเดือนรอมฎอน โดยรถบรรทุกน้ำมันคันหนึ่งซึ่งกำลังบรรทุกน้ำมันราว 40,000 ลิตรได้เกิดพลิกคว่ำบนทางหลวงสายสำคัญสายหนึ่ง ขณะกำลังเดินทางจากเมืองการาจีมุ่งหน้าไปยังเมืองละฮอร์ ใกล้เมืองอาเหม็ดปุระ อีสต์ ในแคว้นปัญจาบ
รายงานรายละเอียดของเหตุการณ์ยังคงออกมาเพียงคร่าวๆ แต่พยานผู้เห็นเหตุการณ์บางคนบอกว่ารถบรรทุกน้ำมันคันนั้นวิ่งมาด้วยความเร็วสูง และเสียหลักเมื่อมาถึงทางโค้งมุมแคบ ทำให้ยางรถระเบิดไปเส้นหนึ่ง ราชา ริฟฟัต ผู้กำกับการตำรวจท้องถิ่นบอก
“เมื่อรถพลิกคว่ำแล้ว พวกชาวบ้านในหมู่บ้านรามซันปุระ โจยะ ที่อยู่ใกล้ๆ ก็กรูกันมายังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยถังน้ำและภาชนะอื่นๆ แล้วยังมีคนอีกกลุ่มใหญ่ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะก็มาด้วย และเริ่มต้นตักน้ำมันที่หกรั่วออกมา” ริฟฟัตเล่าต่อ
“หลังจากผ่านไปได้ประมาณ 10 นาที รถบรรทุกน้ำมันก็เกิดระเบิดกลายเป็นลูกไฟใหญ่มหึมา และแผ่ลามครอบคลุมเอาผู้คนที่กำลังตักน้ำมันกันอยู่ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าไฟเริ่มลุกไหม้ขึ้นมาได้อย่างไร” ผู้กำกับตำรวจผู้นี้บอก ขณะที่ จัม ซัจจัด ฮุสเซน โฆษกของสำนักงานกู้ภัย กล่าวว่าตามรายงานเบื้องต้นบางกระแสนั้น สาเหตุมาจากมีบางคนพยายามจุดบุหรี่
จากวิดีโอข่าวที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์ มองเห็นเปลวเพลิงพุ่งแรงมากพร้อมกับมีกลุ่มควันหนา ขณะที่พนักงานดับเพลิงพยายามไฟ หลังจากที่เพลิงสงบแล้วก็มีพวกชาวบ้านออกเดินผ่านร่างที่ดำเกรียมและบิดเบี้ยวซึ่งถูกนำมาวางกองไว้ที่ข้างถนน
นอกจากนั้นยังมีซากดำเกรียมของจักรยานยนต์หลายสิบคันรวมทั้งรถยนต์อีกหลายคันจอดแน่นิ่งกระจัดกระจายกันอยู่บนทางหลวงสายนี้ เคียงข้างพวกภาชนะที่ใช้บรรจุของเหลวในครัว, หม้อ, กระติกน้ำ, ถังแกลลอน และถังน้ำ ซึ่งพวกเหยื่อเคราะห์นำมาใช้ในการตักน้ำมัน
ชาวบ้านและญาติๆ ของเหยื่อจำนวนหลายสิบคน มุงดูจากท้องนาที่อยู่ใกล้เคียง โดยที่จำนวนมากร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ทำไมวันนี้จึงเป็นวันโชคร้ายอย่างนี้” หญิงผู้นี้ร้องถามด้วยน้ำตานองหน้า ขณะที่ชาวบ้านบอกว่าเหยื่อเหล่านี้จำนวนมากเป็นเครือญาติกัน
ฮาฟิซ โซฮาอิล เล่าว่า ในบรรดาเหยื่อที่เสียชีวิตมีทั้งลุงของเขาและลูกๆ ของลุง “ทุกๆ คนในครอบครัวและในหมู่บ้านต่างรู้สึกช็อกอย่างรุนแรง ไม่มีใครเลยสามารถอธิบายได้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นมา” โซฮาอิล บอก
“ผมเห็นมีแต่ไฟทุกหนทุกแห่ง ตั้งพักใหญ่ทีเดียวที่ผมไม่สามารถเข้าใจได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น”
ทางด้าน โมฮัมหมัด ชาบบีร์ ชาวบ้านอีกคนหนึ่งกล่าวว่า คนขับรถบรรทุกน้ำมันตะโกนบอกให้ชาวบ้านถอยออกไป เพราะน้ำมันอาจลุกไหม้ขึ้นมาเมื่อใดก็ได้ แต่ไม่มีใครฟังเขา “แล้วน้ำมันนี่จถไปใช้ทำอะไรล่ะ คุณจะเอามันไปทำอะไรในตอนนี้?” เขาถาม พร้อมกับชี้ไปที่ถังน้ำใบที่มืออีกข้างหนึ่งของเขาหิ้วอยู่
โฆษกของกองบังคับการตำรวจทางหลวงปากีสถาน อิมรัน ชาห์ ก็แถลงว่าพวกชาวบ้านไม่ยอมฟังเสียงเตือนของตำรวจที่ให้ถอยออกไป
จำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุร้ายคราวนี้เพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จาก 123 คนกลายเป็น 146 คนในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยที่ น.พ.จาเวด อิกบัล แห่งโรงพยาบาลวิกตอเรีย ในเมืองบาหาวัลปุระ ทางตอนใต้ของปัญจาบ แถลงว่าตัวเลขล่าสุดขึ้นมาเป็น 153 คนแล้ว ภายหลังได้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองมุลตาน ซึ่งรักษาผู้บาดเจ็บสาหัสราว 50 คน จำนวนมากมีแผลไฟไหม้เป็นบริเวณกว้าง
ขณะที่ นพ.โมฮัมหมัด บาการ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยอาวุโสในพื้นที่แถบนี้กล่าวว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มสูงกว่านี้ได้อีก โดยที่มีอีกหลายสิบคนที่อาการยังวิกฤตมาก
ริฟฟัตระบุว่า ศพผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวนมากไม่สามารถที่จะระบุว่าเป็นใครได้ เนื่องจากอยู่ในสภาพไหม้เกรียม ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่ของแคว้นกล่าวว่า กำลังนำเอาวิธีทดสอบดีเอ็นเอเข้ามาใช้เพื่อระบุอัตลักษณ์
ทางด้าน รานา ซานาอุลเลาะห์ รัฐมนตรียุติธรรมของแคว้นปัญจาบแถลงกับสื่อมวลชนว่า คนขับรถบรรทุกน้ำมันรอดชีวิตมากจากเหตุร้ายคราวนี้ และกำลังถูกควบคุมตัวเพื่อสอบสวน
เจ้าหน้าที่หลายรายบอกว่า กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินบรรทุกแบบ ซี 130 ลำหนึ่ง มาช่วยเฮลิคอปเตอร์หลายลำของกองทัพบกในการลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บกระจายไปส่งตามโรงพยาบาลต่างๆ โดยที่เชื่อกันว่าศูนย์รักษาแผลไฟไหม้แห่งที่อยู่ใกล้เคียงที่สุดน่าจะอยู่ไกลออกไปกว่า 150 กิโลเมตร
นายกรัฐมนตรี นาวาซ ชารีฟ ของปากีสถาน ได้แสดงความเสียใจของตัวเขา และสั่งการให้พวกเจ้าหน้าที่ของแคว้นจัดหา “ความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเต็มที่”
ด้านจีนก็แสดงความเสียใจขอร่วมไว้อาลัยเช่นกัน รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ของจีน แถลงเช่นนี้ในกรุงอิสลามาบัด ซึ่งเขากำลังเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีมัมนูน ฮุสเซน ของปากีสถาน
สำหรับการฉลิมฉลองวันตรุษอีดิลฟิฏรี ซาอุดีอาระเบียและอีกหลายชาติมุสลิมฉลองกันในวันอาทิตย์ (25) แต่ปากีสถานกำหนดฉลองกันในวันจันทร์ (26)