เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอพี - เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามขุดลึกลงไปใต้ชั้นดินโคลนและก้อนหินเป็นวันที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ (25 มิ.ย.) เพื่อค้นหาผู้ที่ยังคงสูญหายไปอีก 93 คน ภายหลังเกิดเหตุดินถล่มไหลลงมาโถมทับหมู่บ้านบนภูเขาแห่งหนึ่งในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ขณะที่ความหวังในการพบผู้รอดชีวิตกำลังจางหายไปเรื่อยๆ
ตามคำบอกเล่าของพวกเจ้าหน้าที่ จวบจนถึงเวลานี้ค้นพบผู้รอดชีวิตในกองซากเสียหายยับเยินเพียงแค่ 3 คน โดยเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่งและลูกน้อยวัย 1 เดือนเศษของพวกเขา นับตั้งแต่ที่มีฝนกระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก แล้วดินโคลนและก้อนหินไหลถล่มลงมาจากภูเขาเข้าท่วมทับบ้านเรือน 62 หลังของหมู่บ้านซินโม่ ในช่วงเช้ามืดของวันเสาร์ (24)
หมู่บ้านซินโม่ ซึ่งอยู่ในอำเภอเหมา จังหวัดปกครองตนเองชนชาติทิเบตและเชียงแห่งอาป้า ตั้งอยู่ในบริเวณขอบตะวันออกของที่ราบสูงทิเบต ในช่วงไม่กี่ปีหลังๆ มานี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งได้รับความนิยมแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีทิวทัศน์สวยงามดุจภาพวาด ด้วยบ้านเรือนที่กระจายอยู่ในท้องทุ่งเขียวขจี และซุกอยู่หว่างเขาที่สูงชันและขรุขระ ขณะที่มีแม่น้ำไหลผ่านข้างๆ หมู่บ้าน ทว่าหลังจากถูกดินถล่มแล้ว หมู่บ้านแห่งนี้ก็กลายสภาพเป็นพื้นที่กว้างขวางของกองซากหักพัง
ทั้งนี้ ดินถล่มคราวนี้ได้ไหลลงมากองขวางทางแม่น้ำเป็นระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และขวางถนนเป็นระยะทางราว 1.6 กิโลเมตร
พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบได้ลดจำนวนคนสูญหายลงจาก 123 คนในตอนแรก เหลือ 93 คนในวันอาทิตย์ (25) ภายหลังได้รับการยืนยันโดยตรงจากเจ้าตัวหรือผ่านทางญาติๆ ว่าผู้ที่คิดว่าหายไปนั้นไม่ได้เป็นอะไรจำนวน 15 คน ทั้งนี้ตามข้อความที่โพสต์บนไมโครบล็อกอย่างเป็นทางการของแผนกโฆษณาของหมู่บ้านซินโม่
ขณะเดียวกัน จังหวัดปกครองตนเองชนชาติทิเบตและเชียงแห่งอาป้าก็ปรับลดจำนวนผู้ที่ยืนยันว่าเสียชีวิตแล้วลงมาจาก 15 คนเหลือ 10 คน
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานโดยอ้างคำพูดของพวกผู้เชียวชาญด้านธรณีวิทยาที่กำลังอยู่ตรงบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งกล่าวหาว่า โอกาสที่จะค้นพบผู้รอดชีวิตเพิ่มขึ้นอีกนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมาก
เฉียว ต้าสือ วัย 26 ปี หนึ่งในผู้รอดชีวิตเล่าว่า เขากับภรรยาตื่นขึ้นมาเมื่อเวลาราวตี 5 ครึ่งของวันเสาร์ (24) เพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมให้บุตรชายที่กำลังร้องไห้จ้า ในตอนนั้นเองเขา “ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวมาจากบริเวณด้านหลังของบ้าน”
เขาเล่าให้ ซีซีทีวี สถานีโทรทัศน์ของรัฐฟังจากเตียงในโรงพยาบาลของเขาว่า พวกเขารู้สึกว่าต้องมีอะไรเลวร้ายกำลังเกิดขึ้นแน่ จึงรีบอุ้มลูกและถลันไปที่ประตูทันที แต่ประตูถูกดินโคลนและก้อนหินอุดทับเสียแล้ว
เฉียวบอกว่าครอบครัวของเขาถูกน้ำพัดพาไป โดยเข้าใจว่าเป็นน้ำที่ทะลักเปลี่ยนทางเมื่อภูเขาพังถล่ม พวกเขาพยายามดิ้นรนต่อสู้กับกระแสน้ำจนกระทั่งพบกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ซึ่งได้ช่วยนำพวกเขาไปโรงพยาบาล ทว่าสำหรับพ่อแม่ของเขาตลอดจนญาติพี่น้องคนอื่นๆ นั้นอยู่ในกลุ่มที่ยังคงสูญหาย
สื่อของทางการจีนรายงานว่า ในวันอาทิตย์ (25) เฉียวกับภรรยามีอาการคงที่แล้ว ส่วนลูกน้อยของพวกเขาถูกส่งเข้าห้องไอซียู เนื่องจากมีอาการปอดบวมจากการสูดเอาโคลนเข้าไป
“ผมได้รับบาดเจ็บแค่ผิวนอกๆ เท่านั้น โดยรวมๆ แล้วผมโอเคนะ แต่ในทางจิตใจ มันก็เป็นเรื่องลำบากมาก ทั้งหมู่บ้านเลยนะ มีครอบครัวต่างๆ หลายสิบครอบครัว พังราบไปหมดแล้ว” เขาเล่า โดยที่มีผ้าพันแผลพันอยู่รอบๆ ศีรษะของเขา
ทางด้าน อู่ ยู่เหิง ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง และรีบมาช่วยเหลือค้นหาผู้รอดชีวิตตั้งแต่วันเสาร์ (24) เล่าว่า “พวกเราไม่สามารถดึงใครที่ยังมีชีวิตอยู่ขึ้นมาได้เลยสักคน” เขาบอกกับรอยเตอร์ “พวกเราดึงคน 2 คนขึ้นมาได้ แต่พวกเขาตายเรียบร้อยแล้ว ผมคิดว่ามันคงสายเกินไปแล้วละ พวกเขาคงไม่เจอใครที่รอดชีวิตแล้ว”
อู่บอกด้วยว่าพื้นที่แถบนี้ง่ายที่จะเกิดดินถล่ม ทว่าเหตุการณ์ที่เกิดในวันเสาร์ (24) ถือว่ามีขนาดใหญ่โตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ภรรยาของอู่ ที่มีชื่อว่า จาง เสี่ยงหง เล่าว่าพวกเขามักไปนอนที่หมู่บ้านอื่นๆ เพราะกลัวว่าจะเกิดดินถล่ม แต่ยังไม่มีเงินทองเพียงพอที่จะโยกย้ายไปอยู่ในตัวเมืองของอำเภอเหมา ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่า
ในวันอาทิตย์ (24) มีรถขุดสีแดงจำนวน 5-6 คัน คอยขุดกองซากหักพังที่บริเวณด้านล่างของไหล่เขา ขณะที่การค้นหาดำเนินต่อไป
จากภาพวิดีโอและภาพนิ่งที่เผยแพร่ทางสื่อต่างๆ ของรัฐ ตลอดจนทั้งคืนวันเสาร์ (23) พวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งเปิดไฟที่หมวกนิรภัยของพวกเขา พร้อมสุนัขดมกลิ่น ได้ออกเที่ยวค้นหาผู้รอดชีวิต ขณะที่แสงสว่างจากโคมไฟส่องสะท้อนให้เห็นกองซากหักพังตะคุ่มสีเทา
สำนักข่าวซินหวาแจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่ราว 3,000 คนพร้อมด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณชีวิต กำลังเข้าร่วมการค้นหาคราวนี้
ชาวบ้านซินโม่มีอาชีพทำการเกษตร โดยปลูกข้าวโพด, พริกไทย, และมันฝรั่ง ชาวบ้านแถบนี้ผู้หนึ่งบอก พร้อมกับกล่าวด้วยว่า ยังมีบางบ้านเปิดเกสต์เฮาส์ต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้าพักด้วย
ขณะที่ สีว์ จื้อเหวิน รองผู้ว่าการจังหวัด กล่าวว่ามีนักท่องเที่ยว 142 คนไปเยือนหมู่บ้านแห่งนี้เมื่อดูจากทะเบียนในวันศุกร์ (23) ทว่าไม่มีใครที่ได้รับอันตรายจากดินถล่มคราวนี้
ทางด้านพวกผู้เชี่ยวชาญกล่าวให้ความเห็นทางสื่อของรัฐว่า ดินถล่มคราวนี้น่าจะมีชนวนเหตุมาจากฝนที่ตกหนัก โดยที่พื้นที่ภูเขาแถบนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติทางธรณีวิทยาอยู่แล้ว เป็นต้นว่าเมื่อเดือนพฤษภาคม 2008 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปร่วมๆ 90,000 คนในอำเภอเหวินชวน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากอำเภอเหมา ราว 40 กิโลเมตร
นักวิทยาศาสตร์ เหอ ซีหมิง บอกกับ เป่ยจิง นิวส์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของรัฐว่า แผ่นดินไหวปี 2008 น่าจะทำความเสียหายแก่เทือกเขาที่พาดผ่านหมู่บ้านซินโม่จนกระทั่งถึงระดับโครงสร้าง และฝนตกเป็นสาเหตุภายนอกที่ทำให้ดินถล่ม
ก่อนหน้านี้ในปี 2014 ได้เกิดดินถล่มในอำเภอนี้มาครั้งหนึ่งซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 11 คน เมื่อมันไหลถล่มใส่ช่วงหนึ่งของทางหลวง