เอเอฟพี - รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และกาตาร์ ร่วมลงนามในข้อตกลงจำหน่ายฝูงบินขับไล่ F-15 ที่ผลิตในสหรัฐฯ ให้แก่กองทัพโดฮา รวมมูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์ วานนี้ (14 มิ.ย.)
การจำหน่ายยุทธภัณฑ์ครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งในอ่าวเปอร์เซีย เมื่อซาอุดีอาระเบียและบรรดาชาติพันธมิตรกล่าวหาว่ากาตาร์สนับสนุนลัทธิก่อการร้าย และพร้อมใจกันตัดสัมพันธ์การทูต
ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณสนับสนุนท่าทีของริยาด เจ้าหน้าที่อเมริกันกลับยังคงแสดงออกอย่างระมัดระวัง และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเจรจาเพื่อคลี่คลายปัญหา
“ข้อตกลงมูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์นี้จะช่วยให้เพิ่มศักยภาพกองทัพกาตาร์ให้ทันสมัย และยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงและปฏิบัติการร่วมระหว่างสหรัฐฯ และกาตาร์” ถ้อยแถลงจากเพนตากอน ระบุ
เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับ คอลิด อัล-อัตติยาห์ รัฐมนตรีกลาโหมของกาตาร์ เกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงที่ทั้งสองชาติกำลังเผชิญร่วมกัน รวมถึงภัยคุกคามจากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และ “ความจำเป็นที่จะต้องลดความขัดแย้ง เพื่อให้ทุกฝ่ายในอ่าวอาหรับสามารถก้าวไปข้างหน้าและบรรลุเป้าหมายร่วมกัน”
เพนตากอนไม่ได้เผยรายละเอียดของข้อตกลงจำหน่ายฝูงบินรบครั้งนี้ แต่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าน่าจะครอบคลุมเครื่องบินขับไล่ไม่ต่ำกว่า 36 ลำ
เมื่อปีที่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้อนุมัติการจำหน่ายฝูงบินขับไล่ F-15 สไตรค์อีเกิล ให้แก่กาตาร์มากถึง 72 ลำ รวมมูลค่ากว่า 21,000 ล้านดอลลาร์
ทรัมป์ ได้ออกมากล่าวหาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (9) ว่ากาตาร์เป็นรัฐที่สนับสนุนก่อการร้าย “ระดับสูง” ซึ่งคำพูดเช่นนี้อาจบั่นทอนความพยายามของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่จะผ่อนคลายความตึงเครียด และยุติการปิดล้อมกาตาร์